ปลดล็อกการเมืองหนุนเศรษฐกิจ

อัปเดตล่าสุด 5 มิ.ย. 2562
  • Share :
  • 466 Reads   

World Competitiveness Center สถาบัน International Institute for Management (IMD) แห่งสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ประจำปี 2562 ให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 25 จากปีที่ผ่านมาอยู่ในอันดับที่ 30 ดีขึ้น 5 อันดับ และดีที่สุดในรอบ 15 ปีจากการสำรวจและจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งหมด 63 เขตเศรษฐกิจทั่วโลก

ขณะที่สิงคโปร์ซึ่งปี 2561 อยู่ในอันดับที่ 3 ล้มแชมป์เก่าสหรัฐอเมริกาขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 1 ฮ่องกงอันดับที่ 2 ส่วนสหรัฐหล่นอยู่อันดับที่ 3 อันดับที่ 4-10 ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เนเธอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ เดนมาร์ก สวีเดน และกาตาร์

สำหรับประเทศไทยนั้นผลการจัดอันดับที่แบ่งออกเป็น 4 ด้าน คือ สภาวะเศรษฐกิจ ประสิทธิภาพของภาครัฐ ประสิทธิภาพของภาคธุรกิจ และโครงสร้างพื้นฐาน ปรากฏว่าไทยได้รับการจัดอันดับดีขึ้น 3 ด้าน ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจ ประสิทธิภาพของภาครัฐ และโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนประสิทธิภาพของภาคธุรกิจ ความสามารถในการแข่งขันลดลง 2 อันดับ

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ระบุว่า อันดับที่ดีขึ้นมาจากปีที่ผ่านมา สศช.ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (กพข.) ผลักดันยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันร่วมกับหลายหน่วยงาน และหากทำได้ต่อเนื่องภายใน 5-10 ปี ขีดควสามารถในการแข่งขันของไทยจะขึ้นเป็นที่ 2 ของอาเซียน

ถือเป็นข่าวดีท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังมีปัจจัยลบทั้งภายในและนอกประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทำให้เดือนเมษายนที่ผ่านมายอดส่งออกสินค้าไทยติดลบเป็นเดือนที่ 2 และมีแนวโน้มจะมีปัญหาต่อเนื่องจากสงครามทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐซึ่งจะทำให้การค้าโลกตึงเครียดมากขึ้น

บวกกับการเมืองภายในประเทศยังไม่ชัดเจน หากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ยืดระยะเวลาออกไป จะกระทบความเชื่อมั่นและการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ สถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่เอื้อ รัฐบาลประชาธิปไตยที่ทุกฝ่ายตั้งตารอยังไม่ได้ฤกษ์ตั้งไข่ กลายเป็นตัวแปรหลักที่ทำให้ภาคเอกชนชะลอการลงทุนออกไปไม่มีกำหนด


ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าวทางออกเดียวที่จะทำให้ภาคธุรกิจ นักลงทุนเชื่อมั่น คือการปลดล็อกการเมืองที่ยังอึมครึมไม่ชัดเจนให้คลี่คลาย เห็นโฉมหน้ารัฐบาลใหม่


รวมทั้งนโยบายทิศทางในการบริหารประเทศโดยเร็ว เพื่อสร้างบรรยากาศให้เกิดการลงทุน โดยมีปัจจัยบวกผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันที่มีเพิ่มขึ้นเป็นแรงหนุน เศรษฐกิจในภาพรวมจะได้ขับเคลื่อนไม่สะดุดหยุดนิ่งเหมือนที่เป็นอยู่ขณะนี้