นักลงทุนวิตกสงครามการค้าฯ รุนแรง โบรกฯ ชูหุ้น “Domestic Play” หลบภัยปัจจัย ตปท.

อัปเดตล่าสุด 9 พ.ค. 2562
  • Share :
  • 540 Reads   

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยภาพรวมตลาดหุ้นเช้าวันที่ 9 พ.ค.62 คาดว่าตลาดหุ้นจะเปิดลบหรือดัชนีอาจมีการเปิดย่อตัวลงมาก่อนช่วงแรก เนื่องจากได้รับแรงกดดันต่อเนื่องจากประเด็นข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่งสัญญาณว่าการเจรจาการค้าครั้งนี้อาจยังไม่จบอย่างที่ตลาดคาดไว้ โดยปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเปิดตลาดเช้านี้ติดลบเฉลี่ย 0.8-0.9%

นักวิเคราะห์ เสริมว่า หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการเจรจากันที่จะถึงในคืนวันศุกร์ที่ 10 พ.ค.62 ได้ จะต้องติดตามต่อว่าทั้งฝั่งของสหรัฐฯ และจีนจะมีการตอบโต้กันอย่างไร ซึ่งมี 2 กรณีที่เป็นไปได้ ได้แก่ 

1.สหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ หรือขึ้นภาษีสู่ระดับ 25% หากเป็นไปตามกรณีนี้ ประเมินว่าตลาดหุ้นอาจปรับลดลงไม่มาก เนื่องจากตลาดได้ปรับลดสะท้อนกรณีนี้ไปแล้ว และ 

2.สหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 3.25 แสนล้านดอลลาร์ ดังนั้น รวมแล้วจีนจะต้องจ่ายภาษีให้สหรัฐฯ รวมประมาณ 5.5-5.7 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นวงเงินที่สูงกว่าที่ตลาดประเมินเอาไว้ และอาจส่งผลให้ตลาดปรับลดลงมากกว่ากรณีแรก


ขณะที่ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีวันนี้ไว้บริเวณแนวรับแรกที่ 1,640 จุด และแนวรับถัดไปที่ 1,620 จุด โดยมองภาพรวมตลาดจะเปิดย่อตัวลงมาก่อนจึงเริ่มสร้างฐานใหม่ที่โซนด้านล่าง ทั้งนี้ แนวรับที่ 1,620 จุด เป็นแนวรับสร้างฐานสำคัญที่เกิดขึ้นในปลายเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา หากดัชนีเคลื่อนไหวหลุดแนวรับดังกล่าวอาจเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก ส่วนแนวต้านด้านบนวันนี้ประเมินไว้ที่ 1,665 จุด


ด้านกลยุทธ์การลงทุนยังคงคำแนะนำเดิม คือ การลงทุนสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำแนะนำให้รอความชัดเจนในประเด็นข้อพิพาททางการค้าฯ ที่เริ่มมีความรุนแรงมากขึ้นให้คลี่คลายจึงค่อยเข้าลงทุน ขณะที่การลงทุนสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงแนะนำ “ทยอยสะสม” หุ้นที่อิงกับปัจจัยในประเทศ (Domestic Play) เนื่องจากหุ้นที่อิงกับปัจจัยต่างประเทศ (Global Play) ได้รับแรงกดดันจากปัจจัยข้อพิพาททางการค้าฯ อย่างไรก็ตาม มองว่าราคาหุ้นกลุ่ม Domestic Play ที่ปรับย่อลงมาในปัจจุบันเหมาะสำหรับการตั้งรับ โดยแนะนำซื้อกลุ่มค้าปลีก BJC กลุ่มโรงพยาบาล BCH และกลุ่มเช่าซื้อ/ลิสซิ่ง MTC