TCC Confidence Index ในเดือนเมษายน 2564

ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย เม.ย. 64 ต่ำสุดในรอบ 39 เดือน วอนรัฐเร่งคุมการระบาด ฉีดวัคซีนทั่วถึง

อัปเดตล่าสุด 12 พ.ค. 2564
  • Share :
  • 8,810 Reads   

ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ประจำเดือนเมษายน 2564 (TCC Confidence Index) อยู่ที่ 27.6 ลดลง 3.1 จากเดือนก่อนหน้า ถือเป็นตัวเลขต่ำที่สุดในรอบ 39 เดือน ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิดระลอก 3

จากการสำรวจสมาชิกผู้ประกอบการ 368 รายทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 26 - 30 เมษายน 2564 พบว่า ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการปรับตัวลดลง ค่าดัชนีฯ อยู่ที่ระดับ 27.6 ลดลง 3.1 จากเดือนมีนาคม 2564 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 30.7 เป็นผลความวิตกกังวลต่อการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 รอบ 3 ที่มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง , การสั่งปิดกิจการทางธุรกิจในหลายประเภท, การงดกิจกรรมสงกรานต์ในหลายพื้นที่ และค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงเล็กน้อย รวมถึง การที่ สศค. ปรับตัวเลขคาดการณ์ GDP ปี 2564 เหลือขยายตัวที่ 2.3% ต่อปี

Advertisement

 

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อดัชนีความเชื่อมั่นของหอการค้าไทย

ปัจจัยด้านลบ

  • ความวิตกกังวลต่อการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 รอบที่ 3 ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน การทำธุรกิจ และภาวะเศรษฐกิจของประเทศทั้งปัจจุบันและในอนาคต หากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
  • ภาครัฐออกมาตรการควบคุมการระบาดของโรค และมาตรการควบคุมแบบบูรณาการจำแนกตามเขตพื้นที่ ภายใต้ พ.ร.ก. บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อมิให้เหตุการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 อันเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น
  • การสั่งปิดกิจการทางธุรกิจในหลายประเภท โดยเฉพาะธุรกิจกลางคืน
  • มาตรการการกักตัวของบางจังหวัด หากเดินทางเข้าจังหวัดนั้น ๆ ทำให้นักท่องเที่ยวชะลอการเดินทาง
  • การงดกิจกรรมสงกรานต์ในหลายพื้นที่ 
  • การชะลอการบริโภคและจับจ่ายใช้สอย จากสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 รอบ 3 
  • ธุรกิจเริ่มขาดสภาพคล่องและปิดกิจการ ส่งผลให้มีการปลดคนงานเพิ่มขึ้น หรือมีการลดเงินเดือน 
  • สศค. ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2564 โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวอยู่ที่ 2.3% ต่อปี ลดลงจากประมาณการเมื่อเดือนมกราคม 2564 ที่ 2.8% ต่อปี 
  • SET Index เดือน เม.ย. 64 ปรับตัวลดลง 4.08 จุด จาก 1,587.21 ณ สิ้นเดือน มี.ค. 64 เป็น 1,583.13 ณ สิ้นเดือน เม.ย 64 
  • ค่าเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าเล็กน้อยจากระดับ 30.789 ฿/$ ณ สิ้นเดือน มี.ค. 64 เป็น 31.341 ฿/$ ณ สิ้นเดือน เม.ย. 64 
  • ระดับราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยแก๊สโซฮอล ออกเทน 91 (E10) และแก๊สโซฮอล ออกเทน 95 (E10) ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 0.60 บาทต่อลิตร

ปัจจัยด้านบวก

  • ภาครัฐดำเนินมาตรการเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในโครงการ “คนละครึ่ง” “เราเที่ยวด้วยกัน” “เราชนะ” และ“เรารักกัน” เพื่อช่วยกระตุ้นกำลังซื้อให้ปรับตัวดีขึ้นทั่วประเทศ
  • การส่งออกของไทยเดือน มี.ค. 64 ขยายตัวร้อยละ 8.47 มูลค่าอยู่ที่ 24,222.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และการนำเข้าขยายตัวร้อยละ 14.12 มีมูลค่าอยู่ที่ 23,511.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 515.66 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
  • ราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้นหรือทรงตัวในระดับที่ดี โดยเฉพาะข้าว ยางพารา และมันส าปะหลัง ส่งผลให้เกษตรกรในบางพื้นที่เริ่มมีรายได้สูงขึ้น และกำลังซื้อในต่างจังหวัดเริ่มปรับตัวดีขึ้น

ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ และแนวทางการดำเนินการของภาคเอกชนในการแก้ไขปัญหา

  • เร่งจัดหาวัคซีนให้เพียงพอต่อจำนวนประชากร
  • เร่งกระจายการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทุกภาคส่วนอย่างทั่วถึง เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ และทำให้การดำเนินชีวิตกลับเข้าสู่สภาวะปกติหลังจากสถานการณ์โควิดเริ่มมีการคลี่คลายลง
  • เร่งการหยุดการระบาดแพร่เชื้อไวรัสโควิด 19 ที่เป็นคลัสเตอร์และกระจายตัวอยู่ในชุมชนแออัดตามพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
  • เร่งแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวของประเทศให้พร้อมดำเนินการทันทีเมื่อสถานการณ์ของการแพร่เชื้อไวรัสโควิด 19 ควบคุมได้ และประชาชนมีภูมิคุ้นกันต่อโรคในระดับที่ไม่เป็นอันตราย

 

อ่านต่อ: ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย มี.ค. 64 ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังลดต่อเนื่อง 3 เดือน เชื่อไตรมาส 3 เศรษฐกิจฟื้นตัว