เงียบเกินก็ไม่ดี ปัญหารถยนต์ไฟฟ้าที่หลายคนมองข้าม

อัปเดตล่าสุด 19 มิ.ย. 2562
  • Share :
  • 734 Reads   

แน่นอนว่าถึงตอนนี้ ทุกคนคงรู้จักรถยนต์ไฟฟ้า และจักรยานยนต์ไฟฟ้ากันไม่มากก็น้อย ซึ่งก็เป็นผลจากความพยายามผลักดันของรัฐบาลนานาประเทศ ในฐานะส่วนหนึ่งของนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศ ลดปริมาณการใช้น้ำมัน ซึ่งแม้ปัจจุบันจะยังไม่เป็นที่แพร่หลายในหมู่ผู้ใช้รถ แต่ในอนาคตรถยนต์ไฟฟ้าจะสามารถเข้าแทนที่รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปได้อย่างแน่นอน

ซึ่งก่อนที่จะไปถึงจุดนั้นได้ ยังมีอุปสรรคที่ผู้พัฒนา และอีกหลายฝ่ายจำเป็นต้องช่วยกันแก้ไข ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน กฎหมาย และอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มประเทศที่มีปริมาณการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นกว่าประเทศอื่นอย่างชัดเจน เช่น จีน หรือกลุ่มประเทศในยุโรป ได้ประสบกับปัญหาหนึ่ง ซึ่งถูกมองข้ามไปอย่างนึกไม่ถึง

ปัญหารถยนต์ไฟฟ้านั้น “เงียบ” เกินไป

Guide Dogs สมาคมสุนัขนำทางผู้พิการ ประเทศอังกฤษ รายงานว่า มีความเป็นไปได้มากกว่า 40% ที่ผู้ประสบอุบัติเหตุทางท้องถนนในประเทศอังกฤษ เกิดจากการถูกชนโดยรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ใช่รถยนต์ที่ใช้น้ำมัน 

ส่วนการทดลองโดย University of California เปิดเผยว่า รถยนต์ไฮบริด ต้องเข้าใกล้คนเดินถนนกว่ารถยนต์ทั่วไปถึง 74% คนเดินถนนจึงจะได้ยินเสียงมอเตอร์ และมีความเห็นต่อผลการวิจัยว่า รถยนต์ไฟฟ้าที่เงียบเกินไป เป็นผลเสียต่อคนเดินถนน ผู้ชรา ผู้พิการ เด็ก และผู้ใช้จักรยานเป็นอย่างยิ่ง

ด้วยเหตุนี้เอง ยุโรปจึงออกนโยบายให้รถยนต์ไฟฟ้า และจักรยานยนต์ไฟฟ้าทุกคันที่ถูกผลิตหลังวันที่ 1 กรกฎาคม 2019 จำเป็นต้องมีอุปกรณ์กำเนิดเสียง ส่วนรถยนต์ไฟฟ้า และจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตออกมาแล้ว จะต้องติดตั้งอุปกรณ์กำเนิดเสียงให้แล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 2021 ซึ่งผู้ผลิตยานยนต์ ต่างให้การตอบรับ โดยเห็นได้ชัดจากงาน เจนีวา มอเตอร์โชว์ ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม 2019 ที่ค่ายรถยุโรป ทั้ง Audi, BMW, Mercedes-Benz, และ Volkswagen ต่างมีการสาธิต “เสียง” ของรถยนต์ไฟฟ้าโมเดลใหม่ภายในงาน

Volkswagen แสดงความเห็นว่า “เสียงของรถยนต์ไฟฟ้า ต้องต่างจากเครื่องยนต์สันดาป เพื่อให้ผู้ฟังแยกแยะได้” และ “ในรถรุ่นที่มีประสิทธิภาพเครื่องยนต์สูง เสียงก็ต้องทำให้รู้สึกเช่นนั้นด้วย” เพื่อให้สามารถประมาณความเร็วของรถได้จากเสียงที่ได้ยิน ในขณะที่รถขนาดใหญ่ ก็ควรมีเสียงที่ทุ้มกว่า อย่างไรก็ตาม เสียงของยานยนต์นั้น จะต้องไม่ใช่เสียงที่รบกวนผู้ฟัง เหมือนอย่างกรณีเสียงของเครื่องจักรภายในโรงงาน

ส่วน Mercedes-Benz อยู่ระหว่างการประสานความร่วมมือกัยวงดนตรี พัฒนาเครื่องยนต์ให้ส่งเสียงเหมือนการฮัม เพื่อเตือนให้คนเดินถนนได้ยิน ซึ่งอยู่ระหว่างการค้นหา “เสียงที่เหมาะกับรถยนต์ไฟฟ้า” อยู่ในขณะนี้

ผู้ผลิตอีกรายคือ Jaguar ซึ่งพัฒนาระบบเสียงเตือนให้ได้ยินเฉพาะจากด้านนอกรถ เพื่อให้ผู้ขับขี่ไม่ถูกรบกวน อย่างไรก็ตาม รายงานว่าปัจจุบันเสียงที่ได้ยังไม่ค่อยน่าฟังมากนัก

ที่ผ่านมา ผู้ผลิตยานยนต์บางส่วนเล็งเห็นความสำคัญในการผลิตแหล่งกำเนิดเสียงให้กับยานยนตฺไฟฟ้าแล้ว แต่ด้วยการประกาศมาตรการในครั้งนี้ จะส่งผลให้อุปกรณ์กำเนิดเสียง กลายเป็นชิ้นส่วนที่ขาดไม่ได้ของยานยนต์ในอนาคต อีกทั้งยังทำให้ได้เสียงที่เป็นกลาง สามารถใช้ร่วมกันได้ ต่างจากการแยกกันพัฒนาแบบค่ายใครค่ายมันอย่างที่ผ่านมา