Toyota ทุ่ม ลงทุนสหรัฐเพิ่ม 1.3 หมื่นล้าน

อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 2562
  • Share :
  • 575 Reads   

Toyota ประกาศเพิ่มงบประมาณการลงทุนในสหรัฐอเมริกา ในช่วงปี 2017 - 2021 จากเดิม 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา 

โดยเม็ดเงินมูลค่ากว่า 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะถูกใช้ลงทุนในโรงงาน 5 แห่ง คือโรงงานรัฐแอละแบมา, เคนทักกี, มิสซูรี, เทนเนสซี, และเวสต์เวอร์จิเนีย และเพิ่มกำลังผลิตรถไฮบริด (Hybrid Vehivle: HV) “RAV4 Hybrid” ซึ่งเป็นยานยนต์ SUV ของบริษัทที่ทำยอดขายได้ดีที่สุดในสหรัฐฯ และ “Lexus ES 300h hybrid” ในฐานการผลิตแห่งต่าง ๆ เสริมกำลังผลิตเครื่องยนต์, ระบบส่งกำลัง, และศักยภาพในการหล่อโลหะของบริษัทให้สูงขึ้น 

Mr. Jim Lentz CEO บริษัท Toyota Motor North America แสดงความเห็นว่า “การลงทุนในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่แสดงถึงความพยายามในภูมิภาคอเมริกาของเรา ด้วยการเสริมจุดยืนให้แน่นขึ้น เพื่อสนับสนุนลูกค้า และตัวแทนจำหน่ายของเราอย่างทั่วถึงในอนาคต”

โดยรายละเอียดการลงทุนในทั้ง 5 รัฐ มีดังต่อไปนี้

แอละแบมา
เสริมกำลังผลิตเครื่องยนต์จากปีลั 670,000 หน่วย เผ็น 900,000 หน่วยภายในปี 2021 เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น และความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการของตลาด

เคนทักกี
ตั้งเป้าเริ่มผลิต Lexus ES 300h hybrid ภายในเดือนพฤษภาคม 2019 โดยมีกำลังผลิตอยู่ที่ปีละ 12,000 คัน ตามด้วย RAV4 Hybrid ในเดือนมกราคม 2020 โดยตั้งเป้ากำลังผลิตไว้ที่ปีละ 100,000 คัน รวมถึง Camry, Camry Hybrid, Avalon, Avalon Hybrid, และ Lexus ES รวมปีละ 550,000

มิสซูรี
เสริมกำลังผลิตไซลินเดอร์อีกปีละ 864,000 หน่วย สำหรับ Toyota’s New Global Architecture (TNGA) รวมแล้วเป็นปีละราว 3 ล้านหน่วย ซึ่งจะถูกใช้ในการซัพพลายให้กับ Toyota และ Lexus ที่ผลิตในสหรัฐอเมริกา

เทนเนสซี
ต่อเติมอาคารเดิม และเพิ่มกำลังผลิตระบบส่งกำลังสำหรับรถไฮบริดเป็น 2 เท่า หรือปีละ 240,000 หน่วย และบล็อกเครื่องยนต์อีกปีละ 288,000 หน่วย สำหรับ TNGA รวมแล้วเป็นปีละ 1.7 ล้านหน่วย รวมถึง Transmission Case และ Housing ปีละ 580,000 หน่วย

เวสต์เวอร์จิเนีย
ต่อเติมอาคารเดิม และเพิ่มกำลังผลิตระบบส่งกำลังสำหรับรถไฮบริด โดยจะเริ่มจากผลิตปีละ 120,000 หน่วยในปี 2020 และเพิ่มเป็น 2 เท่า หรือปีละ 240,000 หน่วย ในปี 2021