
เปิดเวทีสัมมนา 5-Axis Seminar 2025 ยกระดับมาตรฐานการผลิตชิ้นส่วนไทย
อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนเร่งปรับตัวรับการผลิตป้อนอุตสาหกรรมอนาคต ภาครัฐร่วมอัดมาตรการภาษีหนุนลงทุนเทคโนโลยี-เครื่องจักรอัตโนมัติ
อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนไทยกำลังเร่งปรับตัวเข้าสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต ทั้งยานยนต์ไฟฟ้า เครื่องมือแพทย์ และอากาศยาน โดยล่าสุดภาคเอกชนร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกเปิดเวทีสัมมนา 5-Axis Seminar 2025 เพื่อแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ด้านเทคโนโลยี 5 แกนและระบบอัตโนมัติ (Automation) ภายใต้ธีม “5-Axis – The New Standard of Manufacturing” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 2-3 ตุลาคม 2568 งานนี้ยังเน้นสิทธิประโยชน์ทางภาษีสูงสุดถึง 100% สำหรับผู้ลงทุนในระบบอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยเลือกลงทุนและใช้เทคโนโลยีได้อย่างคุ้มค่า เพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และก้าวสู่มาตรฐานการผลิตสากล
นายรัชศักดิ์ เกิดภู่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมชชีนเทค จำกัด กล่าวถึง บทบาทและการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนของไทย เพื่ออยู่ในระบบนิเวศอุตสาหกรรมใหม่และอุตสาหกรรมแห่งอนาคตว่า ประเทศไทยอยู่ในสถานะผู้ผลิตชิ้นส่วนสำคัญของภูมิภาคมายาวนาน ทั้งในกลุ่มยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และแม่พิมพ์ โดยมีจุดแข็งด้านแรงงานฝีมือ มีระบบซัพพลายเชนที่เข้มแข็ง และมาตรฐานการผลิตที่เชื่อถือได้
อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและแนวโน้มอุตสาหกรรม ตลอดจนความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ทำให้ผู้ผลิตจำเป็นต้องปรับตัวเข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่และอุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยเฉพาะกลุ่ม ยานยนต์ไฟฟ้า เครื่องมือแพทย์ และอากาศยาน การลงทุนด้านเครื่องจักรและซอฟต์แวร์ การพัฒนาทักษะแรงงานขั้นสูง และการนำเทคโนโลยีใหม่ เช่น Automation, Digitalization, AI และ Smart Manufacturing มาใช้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดความผิดพลาด และยกระดับการผลิตให้มีความแม่นยำสูงขึ้นในเวลาส่งมอบที่สั้นลง
โดยเฉพาะเทคโนโลยีเครื่องจักร 5-Axis ซึ่งเป็นเครื่องจักร CNC ที่เคลื่อนที่ได้พร้อมกัน 5 ทิศทาง ทำให้สามารถตัด กัด เจาะ และขึ้นรูปชิ้นงานได้อย่างละเอียดและซับซ้อนมากกว่าเครื่องจักรแบบ 3 หรือ 4 แกนทั่วไป รองรับการทำงานร่วมกับระบบ Automation และสามารถผลิตได้ทั้งจำนวนมาก (Mass Production) และสินค้าหลากหลายรูปแบบ (High-Mix Low-Volume) การนำเทคโนโลยี 5-Axis มาใช้ จะช่วยยกระดับการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพ ลดข้อผิดพลาด และเสริมศักยภาพการแข่งขันให้ผู้ประกอบการไทยคงความเป็นฐานการผลิตสำคัญของภูมิภาคและของโลกได้อย่างมั่นคง
เพื่อส่งเสริมความรู้และแนวทางการลงทุนที่คุ้มค่า ผู้เชี่ยวชาญ สมาคม และพันธมิตรในอุตสาหกรรมเครื่องจักร 5 แกนจากทั่วโลก จึงร่วมกันจัดงาน 5-Axis Seminar 2025 ระหว่างวันที่ 2–3 ตุลาคม 2568 ณ อีสติน ธนาซิตี้ กอล์ฟ รีสอร์ท กรุงเทพฯ เพื่อแบ่งปันประสบการณ์และแนวทางการใช้เทคโนโลยี 5-Axis ให้เหมาะสมกับการผลิตของผู้ประกอบการไทย
ด้านนายสิริวัฒน์ ไวยนิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การผลิตอัตโนมัติและหุ่นยนต์ สถาบันไทย-เยอรมัน (TGI) กล่าวว่า แนวโน้มการผลิตของไทยกำลังก้าวสู่ระบบอัตโนมัติที่ผสานเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น ลดข้อผิดพลาด และยกระดับผลผลิต ทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่รวดเร็วขึ้น และแข่งขันได้ในตลาดโลกที่ซับซ้อนมากขึ้น การจัดสัมมนา 5-Axis Seminar 2025 จึงเป็นอีกเวทีสำคัญในการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี 5 แกน ระบบอัตโนมัติ และหุ่นยนต์ ตลอดจนการพัฒนาบุคลากรให้พร้อมทำงานร่วมกับเครื่องจักรยุคใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ ปัจจุบันกรมสรรพากรร่วมกับศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ (CoRE) เปิดให้ผู้ประกอบการที่ลงทุนในระบบ Automation สามารถยื่นขอยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้สูงสุด 100% ของมูลค่าการลงทุน ครอบคลุมทั้งเครื่องจักรและซอฟต์แวร์ที่เชื่อมกับระบบอัตโนมัติ โดยใช้สิทธิ์ได้ต่อเนื่องนานถึง 5 รอบบัญชี ทั้งนี้ต้องเป็นโครงการที่ลงทุนจริงระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2564 – 31 ธันวาคม 2568 และผ่านการรับรองจาก CoRE ว่าเป็นระบบ Automation ที่เข้าเกณฑ์
นายสุรชัย ตั้งธราธร ประธานบริษัท เอช เอส เอ็ม แมชชีนเนอรี่ จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่องจักรอุตสาหกรรม และผู้บุกเบิกการนำเข้าเครื่องจักร 5 แกน ประสิทธิภาพสูงจากเยอรมนีและไต้หวัน กล่าวว่า ตลาดเครื่องจักร 5 แกนในประเทศไทยมีการเติบโตต่อเนื่อง สอดคล้องกับความต้องการของโรงงานที่ต้องผลิตชิ้นงานซับซ้อนและแม่นยำสูง โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่และอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ขณะเดียวกันยังได้รับแรงสนับสนุนจากภาครัฐผ่านมาตรการด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษี ทำให้ผู้ประกอบการสามารถลงทุนได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
“สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ผู้ประกอบการที่ปรับใช้เทคโนโลยี 5 แกนร่วมกับระบบ Automation สามารถยกระดับประสิทธิภาพการผลิต ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น และสร้างความสามารถในการแข่งขันได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมไทยในการตอบโจทย์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงและเชื่อมโยงสู่ห่วงโซ่การผลิตระดับโลก” นายสุรชัยกล่าว
(จากซ้าย) นายสิริวัฒน์ ไวยนิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การผลิตอัตโนมัติและหุ่นยนต์ สถาบันไทย-เยอรมัน (TGI), นายสุรชัย ตั้งธราธร ประธานบริษัท เอช เอส เอ็ม แมชชีนเนอรี่ จำกัด, และนายรัชศักดิ์ เกิดภู่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมชชีนเทค จำกัด
นายโอลิเวอร์ พรีพิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮิร์มเลย์ เอสอีเอ จำกัด กล่าวถึงความแตกต่างเชิงกลยุทธ์ระหว่างผู้ผลิตสหรัฐฯ และไทยว่า ผู้ผลิตสหรัฐฯ มักลงทุนเครื่องจักร 5 แกนและสร้างชิ้นงานตัวอย่างก่อนเข้าสู่ตลาด ขณะที่ผู้ประกอบการไทยมักรอคำสั่งซื้อก่อนจึงค่อยลงทุน ซึ่งถือเป็นบทเรียนสำคัญที่ผู้ประกอบการไทยควรนำมาใช้เพื่อกล้าลงทุนและเตรียมความพร้อมล่วงหน้า ขณะเดียวกัน Dylan Khor กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทังกาลอยด์-เอ็นทีเค คัทติ้ง ทูล (ไทยแลนด์) จำกัด ชี้ว่า การกัดงาน 5 แกนช่วยลดขั้นตอนและจำนวนครั้งในการเปลี่ยนเครื่องมือ ทำให้คุณภาพและนวัตกรรมของเครื่องมือตัดมีบทบาทสำคัญต่อคุณภาพผิวชิ้นงานและประสิทธิภาพการผลิต
ด้านนายชูชาติ ศิวเวทกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มายโกรว์เทค (ประเทศไทย) จำกัด อธิบายว่า ซอฟต์แวร์ Cimatron สามารถจำลองการทำงานและตรวจสอบการชนล่วงหน้า ลดความเสี่ยงต่อเครื่องจักรและเครื่องมือตัด พร้อมช่วยวางกลยุทธ์การตัดที่มีประสิทธิภาพ ลดเวลา Machining และต้นทุนต่อชิ้นงาน อีกทั้งยังให้คุณภาพผิวที่แม่นยำและเรียบเนียน ลดการ Rework ทำให้การผลิตปลอดภัย มั่นใจ และคุ้มค่ามากขึ้น ส่วนนายกุลโชค โพธิ์พัฒนชัย ประธานและซีอีโอ กลุ่มบริษัท เอ.ไอ และบริษัท เอ.ไอ เทคโนโลยี จำกัด ย้ำว่า การยกระดับขีดความสามารถด้วยเทคโนโลยี 5 แกนและระบบอัตโนมัติช่วยลดต้นทุน เพิ่มคุณภาพ และส่งมอบงานได้มาตรฐานสากล แม้สถานการณ์การเมืองจะผันผวน แต่ยิ่งทำให้ผู้ประกอบการต้องแข็งแกร่งและพัฒนาศักยภาพของตนเอง
ขณะที่ นายเคน คอนโดะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอคุม่า เทคโน (ไทยแลนด์) จำกัด ชี้ว่า เทคโนโลยี 5 แกนถือเป็นหัวใจของการผลิตที่แม่นยำ สามารถกัดหลายด้านในครั้งเดียว ลดเวลาส่งมอบและลดการสต็อกงานระหว่างกระบวนการ และหากผสานเข้ากับระบบอัตโนมัติ เช่น พาเลตเชนเจอร์ หุ่นยนต์ และสมาร์ทมอนิเตอร์ จะช่วยเพิ่มการใช้เครื่องจักรได้เต็มประสิทธิภาพ ใช้พื้นที่โรงงานอย่างคุ้มค่า และสร้างผลกำไรจากสินทรัพย์คงที่สูงสุด
สำหรับผู้สนใจหรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานสัมมนา 5-Axis Siminar 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-3 ตุลาคม 2568 ณ อีสติน ธนาซิตี้ กอล์ฟ รีสอร์ท บางนา กม.15 กรุงเทพฯ สามารถติดต่อได้ที่ อีเมล: [email protected] หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.mreport.co.th