ญี่ปุ่นผลัก AI แทนผู้มีประสบการณ์ เริ่มพัฒนาปี 2019 นี้

อัปเดตล่าสุด 13 ก.ย. 2561
  • Share :
  • 638 Reads   

Ministry of Economy, Trade and Industry (METI) ประกาศตั้งโครงการวิจัยใหม่ในปีงบประมาณ 2019 เพื่อเร่งการนำ AI มาใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตของประเทศญี่ปุ่นให้เกิดเร็วยิ่งขึ้น และได้ตั้งเป้าพัฒนาให้พร้อมใช้จริงในระยะเวลา 3-5 ปีหลังเริ่มดำเนินการ เพื่อเร่งแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่รุนแรงขึ้น โดยภาครัฐจะร่วมมือกับบริษัทต่าง ๆ ที่เข้าร่วมโครงการณ์ เพื่อพัฒนา AI พื้นฐาน ให้ผู้ใช้สามารถนำไปต่อยอด และยกระดับการแข่งขันในอุตสาหกรรมได้

โดยปัจจุบันได้วางแผนไว้ 2 โครงการ ดังนี้

  1. โครงการด้านการออกแบบ ซึ่งโฟกัสไปที่อุตสาหกรรมยานยนต์ โดยวางแผนพัฒนา AI เพื่อใช้ในการออกแบบและพัฒนาโปรแกรมประเมินความเสี่ยง ซึ่งปัจจุบันเป็นงานที่มีรายการประเมินเป็นจำนวนมากและต้องการความละเอียดสูง และยังอาศัยผู้มีประสบการณ์เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ซึ่ง AI จะเข้ามามีบทบาทในขั้นตอนทั้งหมด และให้ผู้เชี่ยวชาญรับผิดชอบในส่วนการออกมาตรการแก้ไขแทน
  2. โครงการด้านการผลิต ซึ่งโฟกัสที่อุตสาหกรรมเครื่องจักรเพื่อการผลิต โดยวางแผนนำ AI มาแทนที่งานส่วนหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาใช้แทนที่ในงานออกแบบระบบ FA และอื่น ๆ

ซึ่งทั้ง 2 โครงการ มีจุดร่วมคือ การพัฒนา AI เพื่อนำมาใช้แทนที่องค์ความรู้ของพนักงานผู้มีประสบการณ์ โดยรัฐบาลญี่ปุ่นวางแผนลงทุนโครงการนี้ในปีงบประมาณ 2019 ไว้ที่ 1.8 พันล้านเยน ซึ่งนอกจากจะเร่งให้เกิดการนำ AI มาใช้จริง ที่จะเป็นการส่งเสริมจุดแข็งของภาคอุตสาหกรรมให้โดดเด่นขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ผู้มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมสามารถเกษียนจากงานได้เร็วขึ้นอีกด้วย โดยรัฐบาลจะประสานความร่วมมือกับศูนย์วิจัยและภาคการศึกษา และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการได้ในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า

ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตนั้นมีความคาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะนำ AI เข้ามาช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การนำ AI มาทำงานให้สอดคล้องกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางนั้นเป็นเรื่องยาก ในขณะที่การแยกพัฒนาแบบตัวใครตัวมันนั้น พบว่าผลลัพธ์ที่ได้ไม่ดีนัก ด้วยเหตุนี้ METI จึงเล็งเห็นว่า หากได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนแล้ว ก็จะสามารถยกระดับอุตสาหกรรมในองค์รวมได้