ภาวะอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ของประเทศไทย เดือนธันวาคม 2563

ภาวะอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ของประเทศไทย เดือนธันวาคม 2563

อัปเดตล่าสุด 3 เม.ย. 2564
  • Share :
  • 6,103 Reads   

อุตสาหกรรมแม่พิมพ์ภาพรวมในเดือนธันวาคม 2563 ประเทศไทยมีการนำเข้าและส่งออกลดลงจากเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ยังมีการขาดดุลการค้าราว 1.3 พันล้านบาท โดยแม่พิมพ์ยางและพลาสติกยังคงเป็นกลุ่มที่ขาดดุลสูงสุดต่อเนื่อง

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรม สถาบันไทย-เยอรมัน (TGI) ได้จัดทำรายงานภาวะอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ในเดือนธันวาคม 2563 การนำเข้าและส่งออกขยับตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากประเทศไทยยังคงเป็นฐานการผลิตหลักที่ต้องใช้แม่พิมพ์จากต่างประเทศ จึงยังคงภาวะขาดดุลการค้า (Trade Balance) มูลค่า 1,341 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.6% จากเดือนก่อนหน้า แต่ลดลง 5.7% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยแม่พิมพ์ยางและพลาสติกยังเป็นกลุ่มที่ขาดดุลสูงสุด 1,089 ล้านบาท

การส่งออกแม่พิมพ์ในเดือนธันวาคม 2563 ประเทศไทยส่งออกแม่พิมพ์เป็นมูลค่ารวม 793 ล้านบาท ลดลง 23% จากเดือนก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 โดยไทยส่งออกแม่พิมพ์ไปยังประเทศเวียดนามมากเป็นอันดับ 1 ราว 176 ล้านบาท คิดเป็น 22% รองลงมาเป็นญี่ปุ่น 172 ล้านบาท คิดเป็น 22% และสหรัฐอเมริกา 139 ล้านบาท คิดเป็น 18%

การนำเข้าแม่พิมพ์ในเดือนธันวาคม 2563 ประเทศไทยนำเข้าแม่พิมพ์มูลค่ารวม 2,134 ล้านบาท ลดลง 3% จากเดือนก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเป็นการนำเข้าในกลุ่มแม่พิมพ์ยางและพลาสติกเป็นหลัก มีมูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ราว 1,439 ล้านบาท โดย 3 ประเทศหลักที่ไทยนำเข้าแม่พิมพ์มา ได้แก่ จีน 771 ล้านบาท คิดเป็น 36%, ญี่ปุ่น 616 คิดเป็น 29% และเกาหลีใต้ 378 ล้านบาท คิดเป็น 18% 

อ่านบทความ และรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่  : www.tgi.or.th