Sumitomo Chemical เผย วัสดุแห่งอนาคต ดีมานด์พุ่งในยุค 5G และ CASE

อัปเดตล่าสุด 16 มี.ค. 2563
  • Share :
  • 910 Reads   

Sumitomo Chemical เผย 2 สิ่งสำคัญที่จะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเป็นอย่างมากในอนาคต  คือ เทคโนโลยีเครือข่าย 5G และแนวคิด CASE ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งทั่งคู่จะกระตุ้นความต้องการ วัสดุเฉพาะทาง (Functional Materials) ให้เพิ่มมากขึ้น โดยไม่ใช่เพียงแค่แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวัสดุอื่น เช่น พลาสติกวิศวกรรม (Super Engineering Plastic), โพลิเมอร์ผลึกเหลว (Liquid Crystal Polymer: LCP), สารกึ่งตัวนำแบบผสม (Compound Semiconductor Materials), เรซิ่นใสจาก PMMA (Poly methyl methacrylate), วัสดุสำหรับผลิตจอภาพยานยนต์, และอื่น ๆ

Mr. Masaki Matsui ตัวแทนผู้อำนวยการ แผนกเคมีภัณฑ์ด้าน IT บริษัท Sumitomo Chemical แสดงความเห็นว่า “ในความเป็นจริงแล้ว วัสดุเหล่านี้ไม่ใช่ของใหม่ซะทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น LCP ซึ่งเป็นวัสดุที่มีการพัฒนามาอย่างยาวนาน ซึ่งในกรณี Sumitomo Chemical ได้พัฒนามาตั้งแต่ช่วงปี 1970 และไม่ทำกำไรให้กับบริษัทในขณะนั้น จนพบว่าคุณสมบัติไดอิเล็กตริก และการดูดซึมน้ำต่ำ เหมาะสำหรับนำมาพัฒนาเป็นชิ้นส่วนแผงวงจร 5G เป็นอย่างยิ่ง”

ส่วนเรซิ่นใสจาก PMMA ก็เป็นวัสดุที่สำนักงานคณะรัฐมนตรีประเทศญี่ปุ่นพัฒนาขึ้นภายใต้โครงการ “Impulsing Paradigm Change through Disruptive Technologies Program (ImPACT)” ซึ่งจากการทดลองนำมาผลิตเป็นกระจกยานยนต์ในปี 2018 พบว่าน้ำหนักลดลงจากกระจกในขนาดเดียวกันถึง 60% อีกทั้งยังมีความทนทานสูง และดัดให้โค้งงอได้

ในด้านของวัสดุสารกึ่งตัวนำนั้น โดยในการนำไปใช้งานนั้น Sumitomo Chemical รายงานว่า Gallium nitride (GaN) Epitaxial Wafer จะเป็นวัสดุสำหรับแผงวงจร 5G ในขณะที่ Gallium arsenide (GaAs) Epitaxial Wafer นั้น นอกจากการนำไปใช้ในชิ้นส่วนสมาร์ทโฟนแล้ว ปัจจุบันยังมีออเดอร์สำหรับนำไปใช้ผลิตเซนเซอร์เพิ่มขึ้นจากแต่ก่อน ซึ่งในอนาคตที่ยานยนต์อัตโนมัติจะแพร่หลายนั้น ความปลอดภัยจะถูกต้องการเพิ่มขึ้น ก็อาจทวีความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยานยนต์ให้มากยิ่งขึ้นไปอีก

Sumitomo Chemical ตั้งเป้านำเทคโนโลยีของบริษัทในปัจจุบัน มานำเสนอโซลูชันด้านวัสดุแห่งอนาคตภายในเวลา 5 ปี อย่างไรก็ตาม หากคำนึงถึงอนาคตในอีก 10 - 20 ปีหลังจากนี้แล้ว การพัฒนาวัสดุเหล่านี้ จำเป็นต้องคำนึงถึงองค์ประกอบอื่น เช่น ขีดความสามารถในการนำกลับมาใช้ใหม่ และเทคโนโลยีชีวภาพอีกด้วย