Fujitsu Thailand ชู SAP และ ServiceNow Integration ยกระดับซัพพลายเชนสู่ความยั่งยืน

Fujitsu Thailand ผสาน SAP และ ServiceNow ยกระดับซัพพลายเชนผู้ผลิตไทยสู่ความยั่งยืน

อัปเดตล่าสุด 29 ก.ย. 2568
  • Share :

ท่ามกลางยุคที่ซัพพลายเชนของผู้ผลิตไทยเต็มไปด้วยความท้าทายและความไม่แน่นอน การพลิกโฉมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลกลายเป็นหัวใจสำคัญของความยืดหยุ่นและความยั่งยืน Fujitsu Thailand จึงนำเสนอการผสานพลัง SAP และ ServiceNow เพื่อช่วยองค์กรไทยปรับปรุงกระบวนการทำงานให้รวดเร็ว ถูกต้อง และมองเห็นภาพรวมแบบเรียลไทม์ ในบทสัมภาษณ์นี้ เราได้พูดคุยกับ

  • คุณปนัดดา พรหมวงศ์ศักดิ์ SAP Head Business Unit บริษัท ฟูจิตสึ (ประเทศไทย) จำกัด

  • คุณพรชัย อังศรีพวง ServiceNow Lead Consultant บริษัท ฟูจิตสึ (ประเทศไทย) จำกัด

ถึงแนวทาง การปรับตัว และเคสจริงที่แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีสามารถขับเคลื่อนซัพพลายเชนไทยสู่ความยั่งยืนได้อย่างไร

บทบาทของ Fujitsu Thailand ในการช่วยองค์กรลูกค้า

คุณปนัดดา พรหมวงศ์ศักดิ์ เล่าว่า ตลอดกว่า 30 ปีในแวดวง ERP และ SRP บทบาทของเธอไม่ได้จำกัดแค่การนำเสนอ IT Solution เท่านั้น แต่คือการให้คำปรึกษา ถ่ายทอดองค์ความรู้ และประสบการณ์ เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านหรือการ Implement ระบบ ERP ของลูกค้าเป็นไปอย่างราบรื่น

“Fujitsu เติบโตจากธุรกิจ IT ที่ติดอันดับ Top 3 และตั้งแต่ปี 2020 เราได้มุ่งสู่การเป็นบริษัทบริการอย่างเต็มรูปแบบ จนติด Top 10 ด้านนี้ในที่สุด” เธอกล่าว

ขณะที่คุณพรชัย อังศรีพวง อธิบายถึงบทบาทของตนในฐานะ ServiceNow Lead Consultant ที่ดูแลลูกค้าในประเทศไทยและทำงานร่วมกับทีม APAC โดยรับผิดชอบตั้งแต่ต้นจนจบโครงการ เขาเสริมว่า Fujitsu ได้รับการยกย่องให้เป็น ServiceNow Partner of the Year ติดต่อกันถึง 7 ปีซ้อน และมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรองกว่า 1,000 คนทั่วโลก 

ความท้าทายของซัพพลายเชนผู้ผลิตไทย

ในมุมมองของคุณปนัดดา ผู้ผลิตไทยเผชิญความไม่แน่นอนหลายด้าน ตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด ไปจนถึงประเด็นการค้าโลก เช่น มาตรการภาษีทรัมป์ ที่ทำให้ซัพพลายเชนต้องปรับย้ายอย่างฉับพลัน “ แพลตฟอร์มที่จะใช้ในปัจจุบันจึงต้อง Flexible เพียงพอที่จะ Plug-in หรือ Plug-out ซัพพลายเออร์ใหม่-เก่าได้ทันที ขณะเดียวกันก็ต้องแข็งแรงและมั่นคง”​

คุณพรชัยเสริมว่า ความต้องการหลักของลูกค้าคือ Workflow ที่ปรับเปลี่ยนได้รวดเร็ว ซึ่ง ServiceNow ตอบโจทย์เพราะเป็น Low-code Platform ที่พัฒนาได้อย่างรวดเร็วและเชื่อมโยงระบบอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทบาทของ SAP และ ServiceNow Integration

SAP และ ServiceNow ถือเป็นซอฟต์แวร์ระดับโลกที่มีจุดแข็งต่างกัน Fujitsu เข้ามาทำหน้าที่เชื่อมต่อทั้งสองให้ทำงานเสริมกันอย่างไร้รอยต่อ โดยการออกแบบและสร้างเทมเพลตที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย

คุณปนัดดาอธิบายว่า “เราทำให้การเชื่อมโยงข้อมูลเป็น Single Data บน Cloud ทำงานแบบเรียลไทม์ ไม่ใช่การคัดลอกข้อมูลที่ไม่สอดคล้องกัน วิธีนี้ช่วยให้องค์กรลงทุนอย่างคุ้มค่า ใช้งานได้ยั่งยืน และพร้อมต่อยอดในอนาคต”

ความยั่งยืนและดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน

Fujitsu มองว่า ความยั่งยืนของซัพพลายเชนไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่คือการปรับกระบวนการและมุมมอง

  • ด้านซอฟต์แวร์: ลูกค้าต้องได้ประโยชน์จากการอัปเกรดที่รวดเร็วและต่อเนื่อง
  • ด้านการดำเนินธุรกิจ: ServiceNow ช่วยให้มองเห็นทุกกระบวนการ ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และเพิ่มความปลอดภัยการทำงาน

“ทางเลือกที่คุ้มค่าที่สุดคือการจ่ายเท่าที่ใช้ ผ่านโมเดล Subscription แทนการลงทุนซื้อระบบเองทั้งหมด เพราะนี่คือการลงทุนที่ยั่งยืน” คุณปนัดดากล่าว

ตัวอย่างความสำเร็จจาก Fujitsu Thailand

  • ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า: เมื่อเกิดปัญหาชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้ไลน์ผลิตหยุดชะงัก ServiceNow เข้าไปช่วยตรวจพบปัญหาแต่เนิ่น ๆ และแก้ไขได้ทันเวลา
  • ธุรกิจจัดจำหน่าย: ServiceNow ทำให้ข้อมูลทุกตัวเลขถูกต้อง รวดเร็ว และเรียลไทม์ ส่งผลให้การตัดสินใจมีประสิทธิภาพและระบบยั่งยืน

แนวโน้มซัพพลายเชนไทยในอีก 3-5 ปี

ทั้งสองผู้เชี่ยวชาญเห็นตรงกันว่า ผู้ผลิตไทยกำลังเร่งนำ AI, IoT และการรวมข้อมูล One Data มาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้แรงงาน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่เริ่มเห็นการทำ Standardized Data จนเชื่อมต่อแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้จริง

ฝากถึงผู้ประกอบการและเชิญร่วมงาน FAN 2025

คุณปนัดดาและคุณพรชัยทิ้งท้ายว่า “ผู้ประกอบการไทยไม่กลัวเทคโนโลยี เพียงแต่อยากเห็นตัวอย่างความสำเร็จก่อน ซึ่ง Fujitsu มีกรณีศึกษาจากทั่วโลกมาแชร์ และสิ่งที่เรานำเสนอไม่ใช่แค่การเปลี่ยนระบบ แต่คือการสร้างคุณค่าและความยั่งยืนให้กับธุรกิจ”

ทั้งนี้ Fujitsu เตรียมจัดงาน Fujitsu ActivateNow Southeast Asia 2025 ภายใต้แนวคิด Transformation Beyond Boundaries วันที่ 9 ตุลาคม 2568 เวลา 14:00–19:00 น. ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ

งานนี้จะอัปเดตเทคโนโลยีใหม่ ๆ แชร์กรณีศึกษาจากผู้นำองค์กรของ Kiatnakin Phatra, Bangchak, TOYOTA Connected และ Bitkub  และมอบประสบการณ์ผ่าน Experience Tracks เพื่อช่วยให้องค์กรเดินหน้าสู่ 3P: Profit, People, Planet ได้อย่างยั่งยืน

Register here: