ชาญชัย ตั้งธรรมพูนผล S.P. Metal Part เปิดใจ 40 ปี กับการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์

อัปเดตล่าสุด 7 พ.ย. 2560
  • Share :
  • 2,434 Reads   

S.P. Metal Part Co., Ltd. ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เช่น โครงเบาะนั่งภายในรถยนต์ ชิ้นส่วนท่อไอเสีย หนึ่งในบริษัทภายใต้การบริหารของ คุณชาญชัย ตั้งธรรมพูนผล โดยกลุ่มบริษัท เอส.พี. ประกอบด้วย 4 บริษัท ซึ่งทั้งหมดอยู่ในธุรกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ จุดเริ่มต้นธุรกิจเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2518 ภายใต้ชื่อ เค.เอช.โลหะกิจ (K.H. Metal Products Co., Ld.) ปัจจุบันผลิตชิ้นส่วนจักรยานยนต์ไฟฟ้า ชิ้นส่วนยานยนต์ และชิ้นส่วนทั่วไป และอีก 3 บริษัท ได้แก่ All Metal Part Industry Co., Ltd. ผลิตชิ้นส่วนไฟฟ้าอิเล็กทรอนิคส์, S.P. Automotive Product Co., Ltd. และ S.P. Metal Part Co., Ltd. ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เช่น โครงเบาะนั่งภายในรถยนต์ ชิ้นส่วนท่อไอเสีย

คุณชาญชัย ตั้งธรรมพูนผล กรรมการผู้จัดการ S.P. GROUP ได้เปิดเผยว่า ในการขับเคลื่อนองค์กรให้มีความเข้มแข็งจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 40 กว่าปีนั้น ปัจจัยสำคัญ คือ การมองไปข้างหน้า เกาะกระแสและคว้าทุกโอกาส การไม่หยุดนิ่งและมีความพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนเพื่อตอบรับโอกาสทางธุรกิจที่ผ่านเข้ามาในแต่ละช่วง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ตั้งแต่ยุคเริ่มต้น การผลิตชิ้นส่วนไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ การเปิดรับธุรกิจใหม่ ๆ สอดคล้องไปกับนโยบายการสนับสนุนจากภาครัฐ อาทิเช่น  อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์โดยการผลิตเตียงผู้ป่วย อุตสาหกรรมกรรมหุ่นยนต์ (Robot) และระบบอัตโนมัติ หรือออโตเมชั่น (Automation) คุณชาญชัยบอกอย่างไม่ลังเลว่า การขยายสู่ธุรกิจใหม่ ๆ นั้น เพียงความสำเร็จของ 2 ธุรกิจใหม่จาก 10 ธุรกิจที่เริ่มต้นนั้นก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว เพราะสัญญาณความสำเร็จของสองธุรกิจนั้นบ่งชี้ถึงโอกาสที่จะต่อยอดให้ธุรกิจนั้น ๆ เติบโตอย่างเข้มเข็ง จะเห็นได้ว่าการเปิดใจกว้างรับสิ่งใหม่ ๆ มองเห็นโอกาสใหม่ ๆ นั้นถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้องค์กรก้าวไปข้างหน้าได้ก่อน

ในยุคที่รัฐบาลไทยสนับสนุนอุตสาหกรรมสู่ Industry 4.0 ทางคุณชาญชัยเองก็ไม่พลาดที่จะใช้โอกาสนี้ลงทุนเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ หรือออโตเมชั่น ประกอบกับแรงกดดันในเรื่องแรงงาน จึงเป็นเหตุผลเพียงพอในการตัดสินใจลงทุน  จากการประเมินโครงการก่อนลงทุนนั้นตั้งโจทย์ไว้ที่งบประมาณ 10 ล้านบาทและคืนทุนภายใน 5 ปี แต่เมื่อดำเนินงานแล้วผลลัพธ์ที่ได้เป็นที่พอใจอย่างมาก เพราะสามารถลดระยะเวลาคืนทุนเหลือเพียงแค่ 3 ปี และยังมีผลประโยชน์อื่น ๆ ที่เป็นผลพลอยได้จากการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ ซึ่งไม่สามารถนับได้ในระยะใกล้ แต่มีนัยสำคัญต่อการเติบโตขององค์กรอย่างยิ่ง อาทิเช่น High productivity ผลผลิตสูง, Low waste ของเสียน้อย, Efficiency in operating cost ต้นทุนการบริหารจัดการมีประสิทธภาพดีขึ้นจากงานบุคลากรและค่าใช้จ่ายในโรงงานที่ลดลง  และยังนำมาซึ่งภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กรอีกด้วย

สำหรับผู้ประกอบการที่ยังลังเลกับการนำระบบออโตเมชั่นมาใช้ในการผลิตนั้น คุณชาญชัยแนะว่า ให้เลือกทำเฉพาะส่วนที่สำคัญก่อน เพราะความยากในการวางระบบอัตโนมัติสำหรับโรงงานผู้ผลิตชิ้นส่วนในปัจจุบันคือ ความหลากหลายของตัวชิ้นงาน และผู้วางระบบ (System Integrator) ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ยังมีให้เลือกไม่มากนัก ทำให้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

เมื่อถามถึงปรัชญาในการสร้างองค์กรของคุณชาญชัย ก็ได้รับคำตอบที่คมคายว่า “สร้างความแตกต่างที่ดีกว่า” ซึ่งเป็นสาระสำคัญที่พันธมิตรให้ความไว้วางใจและสนับสนุน เอส.พี. กรุ๊ป ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้  โดยพันธมิตรนี้ไม่ใช่เพียงลูกค้าเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึง คู่ค้า และพนักงานอีกด้วย