วิศวะมหิดล ผนึกพลัง จัดเสวนาวิชาการ "พลวัตใหม่อุตสาหกรรมหล่อโลหะไทย...สู่ฮับอาเซียน" เมื่อ 24 เมษายน 2562

วิศวะมหิดล ผนึกพลัง จัดเสวนาวิชาการ "พลวัตใหม่อุตสาหกรรมหล่อโลหะไทย...สู่ฮับอาเซียน"

อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 2562
  • Share :
  • 396 Reads   

คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดงานเสวนาวิชาการ ในหัวข้อ “พลวัตใหม่อุตสาหกรรมหล่อโลหะไทย...สู่ฮับอาเซียน” โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญและผู้ประกอบการอุตสาหกรรมร่วมเสวนา เพื่อสนับสนุนนวัตกรรมและพัฒนาการบูรณาการองค์ความรู้ ในการสร้างวิศวกรแห่งอนาคตรองรับอุตสาหกรรม S-Curve และ New S-Curve

งานเสวนาวิชาการ “พลวัตใหม่อุตสาหกรรมหล่อโลหะไทย...สู่ฮับอาเซียน” ได้จัดขึ้น เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2562 ในโอกาสการลงนามความร่วมมือ MOU กับภาคเอกชน เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมและการเรียนการสอนวิศวกรรมอุตสาหการ

ผศ.ดร. จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “ โลกยุคดิสรัปเทคโนโลยี ดิจิทัลและนวัตกรรมมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนความก้าวหน้าของธุรกิจอุตสาหกรรมในประเทศไทยและตลาดโลก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมหล่อโลหะ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่สามารถสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ ถึงมูลค่าปีละกว่า 1 แสนล้านบาท นับเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำ และเป็นฐานสำคัญของอุตสาหกรรมปัจจุบันและอนาคต (S-Curve และ New S-Curve) อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมการบินและซ่อมอากาศยาน อุตสาหกรรมระบบราง อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร อุตสาหกรรมประติมากรรม อุตสาหกรรมจิวเวลรี่ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมวัสดุอุปกรณ์การแพทย์ เป็นต้น 
 
นับเป็นโอกาสดีที่ทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง MOU ความร่วมมือทางวิชาการ ร่วมกับ บริษัท บี.โอ.เอส. เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เพื่อร่วมกันผนึกกำลังส่งเสริมอุตสาหกรรม ลดการนำเข้า เสริมศักยภาพงานวิจัยและการเรียนการสอนแก่นักศึกษาได้มีทักษะการปฏิบัติที่ก้าวทันเทคโนโลยีโดยสอดคล้องกับยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศ 
 
คุณสมภพ เพชรคล้าย วิศวกรวิจัยพัฒนา ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC)  กล่าวว่า  MTEC สนับสนุนการส่งเสริมวิจัยพัฒนาและใช้เทคโนโลยีพัฒนาหล่อโลหะ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาไปสู่โรงงานอัจฉริยะ หรือ Smart factory  เบื้องต้นจะเริ่มพัฒนาการหล่อวัสดุอะลูมิเนียม ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตสูง เริ่มจากการพัฒนาแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ เพื่อการจัดเก็บข้อมูลพารามิเตอร์งานหล่ออย่างเป็นระบบ นำชุดข้อมูลไปใช้ประเมินและควบคุมคุณภาพงานหล่อให้เป็นไปตามต้องการ  
 
นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมโยงข้อมูลดังกล่าวอย่างเป็นระบบ โดยระบบคลาวด์อินเทอร์เน็ตสามารถเชื่อมต่อและเข้าถึงข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเลต ฯลฯ ทำให้ผู้ประกอบการ วิศวกร พนักงานปฏิบัติงานและผู้เกี่ยวข้องต่างๆ สามารถที่จะนำข้อมูลดังกล่าวมาวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นภายในโรงงานได้อย่างทันท่วงทีแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยลดของเสีย ประหยัดพลังงาน  ลดต้นทุนการผลิต  ส่วนปัจจัยที่จะผลักดันให้อุตสาหกรรมหล่อโลหะไทยก้าวเป็นฮับอาเซียนได้ คือ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งประกอบด้วยปัจจัยทางด้านทักษะฝีมือแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญ 


 
เนื่องจากประเทศไทยมีประสบการณ์ในการผลิตชิ้นส่วนทางวิศวกรรมมายาวนาน สามารถแข่งขันกับประเทศต่างๆในภูมิภาคได้ รวมถึงมีการสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนาทางด้านงานหล่อโลหะอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของการให้ทุนวิจัย ส่งผู้เชี่ยวชาญจากทั้งในประเทศและต่างประเทศมาช่วยแก้ไขปัญหาและให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ ตลอดจนมีเครือข่ายภาคการศึกษาที่เชื่อมโยงองค์ความรู้เพื่อผลิตบุคลากรให้ตรงความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและตลาดโลก 
 
คุณวิเชียร บุญสืบวงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี.โอ.เอส. เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด กล่าวว่า ในด้านคุณภาพและความเชี่ยวชาญอุตสาหกรรมหล่อโลหะ ประเทศไทยจัดอยู่ในลำดับต้น ๆ ของเอเชีย ในอุตสาหกรรมงานหล่อนั้นจะต้องมีการควบคุมคุณภาพที่ 100% เนื่องจากชิ้นส่วนเหล่านี้เป็นชิ้นส่วนของยานยนต์ ท่าอากาศยาน ระบบราง ซึ่งเกี่ยวข้องกับชีวิตและความปลอดภัย ที่ต้องใช้ความแม่นยำสูง หากเกิดข้อผิดพลาดอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ ในยุคที่เรากำลังเปลี่ยนผ่านสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล 
 
เป้าหมายของอุตสาหกรรมหล่อโลหะที่ประเทศไทยควรจะมุ่งไป คือ การผสมผสานเทคโนโลยีอุตสาหกรรม 4.0 เข้ากับทักษะความเชี่ยวชาญ โดยนำองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีมาพัฒนา ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและการลดต้นทุนแบบยั่งยืน โดยปกติแล้วการหล่อโลหะจะใช้วิธีหลอมโลหะให้เหลวและเทลงในแม่พิมพ์ แต่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาช่วยยกระดับการหล่อโลหะให้มีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น เช่น Technology 3D Simulations รูปแบบการจำลองภาพ 3 มิติ เพื่อเพิ่มศักยภาพการออกแบบดีไซน์ได้ตามต้องการ ซึ่งจะช่วยประหยัดพลังงาน ประหยัดเวลา สามารถผลิตงานออกมาได้ดีมีคุณภาพและแม่นยำ ลดปริมาณชิ้นงานเสีย (Internal Defect) ได้ดีอีกด้วย โดยคู่แข่งที่น่าจับตามองของเรา คือ เวียดนามและอินโดนีเซีย ปัจจุบัน บริษัท บี.โอ.เอส. เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด มีหุ่นยนต์ในไลน์การผลิตอยู่ที่ 4 ตัวและมีแผนการที่จะเพิ่มหุ่นยนต์อีก 4 ตัว ในปีหน้า 
 
อาจารย์เชาว์ เนียมสอน อาจารย์พิเศษและที่ปรึกษาของภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ สาขาวิศวกรรมหล่อโลหะและโลหะการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวว่า “ ในปัจจุบันผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการหล่อโลหะ ส่วนใหญ่จะเป็นอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ดังนั้น หากจะพัฒนาอุตสาหกรรมหล่อโลหะให้ก้าวไกลและมีศักยภาพเพียงพอสู่การแข่งขันในระดับสากล จะต้องสร้างความเข้มแข็ง โดยการร่วมมือกันระหว่าง หน่วยงานภาครัฐ ภาควิชาการและภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ รวมถึงยกระดับเทคโนโลยีการหล่อโลหะให้ได้มาตรฐานสากล ”
  
คุณจุฑา เหลี่ยมมุกดา บริษัท สลาแมนเดอร์ จิวเวอรี่ จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจจิวเวลรี  กล่าวว่า ในปัจจุบันระเบียบการค้าและกฎหมายระหว่างประเทศเปลี่ยนไปมาก และให้ความสำคัญต่อการทำธุรกิจกับองค์กรที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เรามุ่งเน้นมาตรฐานในเรื่องของคุณภาพ และ Green Industry เป็นสำคัญ รวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม การรีไซเคิลนำเศษวัสดุที่เหลือใช้กลับมาใช้ใหม่ ตลอดจนร่วมสร้างความยั่งยืนของชุมชน  ผลิตภัณฑ์จิวเวลรีมีลักษณะของแฟชั่นเครื่องประดับตกแต่ง แบบดีไซน์จะเปลี่ยนไปตามเทรนด์ และยังต้องคำนึงถึงด้านความปลอดภัยทั้งผู้ผลิตและผู้ใช้ด้วย

ดร. เอกชัย วารินศิริรักษ์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “ งานวิศวกรรมการหล่อเป็นอาชีพที่ท้าทายและมีแนวโน้มเติบโตสูง ปัจจุบันงานวิจัยสำหรับมหาวิทยาลัยมุ่งตอบรับโลกยุคดิสรัป การพัฒนาองค์ความรู้และสร้างนวัตกรรมจึงเป็นการเพิ่มโอกาสให้คนรุ่นใหม่ โดยวิศวกรรมอุตสาหการ ม. มหิดล ได้มุ่งเน้นให้นักศึกษา สามารถเรียนรู้ตั้งแต่อุตสาหกรรมต้นน้ำ กลางน้ำไปยังปลายน้ำ ขั้นตอนการศึกษาค้นคว้า ขั้นตอนการวิจัย และสามารถทดลองปฏิบัติงานจริง ขั้นตอนเหล่านี้เป็นการกระตุ้นให้นักศึกษานำเอาเทคโนโลยีที่ได้รับไปพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมได้ ในอนาคตปัญหาด้านการขาดแคลนแรงงานจะมีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากสังคมผู้สูงวัยและหุ่นยนต์ AI จะเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น  คุณสมบัติของวิศวกรด้านหล่อโลหะที่ดีในศตวรรษที่ 21 ควรมีทักษะในการคิดเป็น ทำเป็น ควบคู่กันกับ Soft Skills มีความรอบรู้และการแก้ปัญหาได้ มีความอดทนมุ่งมั่น และที่สำคัญควรมีความเป็นผู้ประกอบการในตัวเอง ”