ปตท. ประกาศจับมือ Plug and Play หาสตาร์ทอัพ สร้างนวัตกรรม เปลี่ยนประเทศไทย

อัปเดตล่าสุด 11 ก.ย. 2563
  • Share :
  • 1,720 Reads   

ปตท. ประกาศความร่วมมือกับบริษัท Plug and Play บริษัทผู้พัฒนาและบ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพระดับโลก ที่มีผลงานลงทุนในเทคสตาร์ทอัพชั้นนำ ทั้ง Paypal, Dropbox และ Lending Club เพื่อสรรหาสตาร์ทอัพในระดับประเทศและระดับนานาชาติ มุ่งยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ พร้อมพัฒนาสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ตามแนวคิด PTT หรือ Powering Thailand's Transformation พร้อมนำพาประเทศไทยให้ก้าวหน้าสู่ระดับสากล

ปตท. เห็นความสำคัญของการสร้าง Innovation Ecosystem ในระดับนานาชาติ ด้วยกลยุทธ์ Partnership and Platform เน้นการดำเนินธุรกิจด้วยการสร้างพันธมิตรและพัฒนาธุรกิจของ ปตท. ให้มีลักษณะเป็นแพลทฟอร์มมากกว่าเป็นแค่ผู้ผลิตสินค้าและจำหน่าย โดยดึงดูดพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อขับเคลื่อนคุณค่าธุรกิจไปสู่มือผู้บริโภค โดย ปตท. ร่วมกับบริษัท Accelerator ชั้นนำอย่าง Plug and Play ในการเข้าถึงเครือข่ายบริษัทด้านเทคโนโลยีที่รวมไปถึงองค์กรใหญ่ และสตาร์ทอัพทั่วโลก เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา (Silicon Valley), จีน, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย โดยการติดต่อกับบริษัทต่างๆ โดยตรง, การเพิ่มโอกาสในการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ และการจัด Workshop ร่วมกับบริษัทสตาร์ทอัพในเครือ อีกทั้งยังเป็นช่องทางการส่งเสริมแบรนด์และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ ปตท. อีกด้วย

นอกจากนี้ ปตท. ยัง สามารถศึกษา และนำข้อมูลด้านเทคโนโลยีหรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้คิดค้น และพัฒนาจากหลายหลายบริษัทสตาร์ทอัพต่าง ๆ ไปต่อยอดและสร้างธุรกิจ S-Curve ให้กับ ปตท. ภายใต้การบริหารจัดการโดยหน่วยงาน ExpresSo ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เชี่ยวชาญด้าน Innovation ของ ปตท. ผ่านกลยุทธ์ 3 New ซึ่งประกอบไปด้วย

  1. New Energy : สร้างธุรกิจด้านพลังงานใหม่ โดยเฉพาะพลังงานทดแทน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายทางความยั่งยืน และความมั่นคงทางพลังงาน ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เช่น ระบบปรับปรุงประสิทธิภาพของแผงเซลล์แสงอาทิตย์
  2. New Mobility : เปลี่ยนโฉมการเดินทางในประเทศไทย รวมไปถึงการขนส่ง ให้มีความสะดวกสบาย และลดมลภาวะ เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คน ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เช่น เทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถไฟฟ้า
  3. New Industry : ผลักดันภาคอุตสาหกรรมไทย ให้เข้าสู่ Industry 4.0 เพื่อเสริมความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรม และรักษาความมั่นคงของเศรษฐกิจไทย ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เช่น ระบบปัญญาประดิษฐ์สำหรับโรงงานผลิต