กระทรวงอุตฯ ร่วม อาลีบาบา ลงนาม MOU ดันประเทศไทย 4.0

อัปเดตล่าสุด 19 เม.ย. 2561
  • Share :
  • 886 Reads   

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยแผนการลงทุนของ Alibaba Group บริษัทอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ว่า อาลีบาบาได้เตรียมแผนการก่อสร้างโครงการ Smart Digital Hub ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มูลค่าลงทุน 11,000 ล้านบาท ที่จะเริ่มก่อสร้างภายในปี 2561-2562 เรียบร้อยแล้ว

ซึ่งในโครงการดังกล่าวจะประกอบไปด้วย ดิจิทัลแพลตฟอร์ม ศูนย์กระจายสินค้า การขนส่งที่จับมือกับทางไปรษณีย์ไทย รวมถึงการลงทุนด้านระบบไอที ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ที่เปิดให้ผู้ประกอบการ SMEs ไทยที่สามารถวางระบบได้เข้าไปร่วม ซึ่ง Smart Digital Hub เป็นโครงการที่จะอาศัยเทคโนโลยีด้านการประมวลข้อมูลโลจิสติกส์ เพื่อทำให้การขนส่งสินค้าระหว่างไทยกับจีน การขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนสู่ประเทศเพื่อนบ้าน (CLMV) และไปยังที่อื่นทั่วโลก และส่วนที่เป็นโครงการความร่วมมือ คือ

  1. การพัฒนาบุคลากรในด้านดิจิทัลและการส่งเสริมธุรกิจผ่าน E-Commerce เพื่อพัฒนากลุ่มคนเก่งหรือดาวเด่นด้านดิจิทัล (Digital Talent) โดยอาลีบาบาได้เสนอให้วิทยาลัยธุรกิจอาลีบาบา หรือ Alibaba Business School (ABS) มาร่วมสนับสนุนการใช้ Platform E-Commerce โดยจะเชื่อมโยงกับสถาบันการศึกษาและภาคเอกชนสร้างเครือข่าย (Networking) กับดาวเด่นหรือ Talents ทั่วโลกที่ประเทศจีน
  2. โครงการร่วมส่งเสริมพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลอีคอมเมิร์ซ สำหรับผู้ประกอบการ SME และ Startup ของไทย โดยอาลีบาบาจะจัดทีมงานร่วมลงพื้นที่กับทีมงานของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยใช้เครือข่าย ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 สู่อนาคต (Industry Transformation Center: ITC) ในระดับภาคและจังหวัดของกระทรวงอุตสาหกรรมทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถพัฒนาและเข้าถึงผู้ประกอบการ SME และผู้ประกอบการ Startup ระดับชุมชนทั่วประเทศ
  3. อาลีบาบา จะร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในการจัดทำ Thailand Tourism Platform สำหรับประเทศไทยโดยเฉพาะ เพื่อจัดกิจกรรมด้านการตลาดร่วมกันบนออนไลน์แพลทฟอร์มที่สามารถเชื่อมโยงกับสื่อและช่องทางต่างๆ ของ ททท. เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองและการท่องเที่ยวในระดับชุมชน เช่น การแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเมืองรองและสินค้าชุมชน
  4. กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับอาลีบาบาในการเปิดตัว Thai Rice Flagship Store บนเว็บไซต์ Tmall.com เพื่อเป็นตัวกลางที่จะนำสินค้าเกษตรอย่าง ข้าว และทุเรียน ขายทางออนไลน์ในตลาดจีนเป็นหลัก โดยเตรียมเข้าหารือเพื่อลงรายละเอียดกับทางกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ถึงปริมาณข้าวและทุเรียนว่าต้องการจำนวนเท่าไร

ทั้งนี้ ในวันที่ 19 เมษายน นี้ ที่นายแจ็ค หม่า (Mr. Jack Ma) ประธานกรรมการบริหาร Alibaba Groub และคณะผู้บริหาร มีกำหนดการเดินทางมาเยือนประเทศไทย ซึ่งจะเข้าเยี่ยมคารวะพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาล และจะเข้าหารือกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ถึงความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย และ Alibaba Groub และเพื่อประกาศแผนการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) รวมถึงโครงการความร่วมมือเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลและส่งเสริมบุคลากรไทยในการพัฒนาทักษะและขีดความสามารถด้านดิจิทัลอีคอมเมิร์ซ

โดยในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมได้เตรียมการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) 4 ฉบับ ดังนี้

  1. ความร่วมมือในด้านการค้าการลงทุนและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล ระหว่างสำนักงาน EEC และ Alibaba.com Singapore E-Commerce Private Limited
  2. ความร่วมมือด้านการลงทุน Smart Digital Hub ในพื้นที่ EEC ระหว่างสำนักงาน EEC กรมศุลกากร และ บริษัท Cainiao Smart Logistics Network Hong Kong Limited
  3. ความร่วมมือด้านการพัฒนา SMEs และบุคลากรด้านดิจิทัลระหว่าง กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และ Alibaba Business School
  4. ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวผ่านดิจิทัลและการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง ระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และบริษัท Zhejiang Fliggy Network Technology Company Limited เช่น การแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเมืองรองและสินค้าชุมชน

ส่วนโครงการที่อาลีบาบาจะมีส่วนร่วมนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้สามารถแข่งขันและเข้าถึงตลาดการค้าได้ทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลกโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและ อีคอมเมิร์ซ รวมถึงการพัฒนาบุคลากรโดยเฉพาะกลุ่ม SME ผู้ประกอบการใหม่อย่างทั่วถึง ในพื้นที่จังหวัดให้เป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 ความร่วมมือในลักษณะเช่นนี้ จะเปิดกว้างสำหรับบริษัทหรือองค์กรชั้นนำอื่นด้วย ไม่จำกัดอยู่เฉพาะอาลีบาบาเท่านั้น  แต่โครงการร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นและร่วมมือที่จะขยายวงกว้างต่อไป