Yamazaki Mazak ประกาศเปิดพิพิธภัณฑ์ Machine Tools ปีหน้า

อัปเดตล่าสุด 31 พ.ค. 2561
  • Share :
  • 553 Reads   

Yamazaki Mazak ได้ประกาศทำตามความฝันของอดีตประธาน Teruyuki Yamazaki ให้เป็นความจริงเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา ด้วยการประกาศสร้าง “พิพิธภัณฑ์ Machine Tools Yamazaki Mazak (ชื่อชั่วคราว)” ที่เมืองมิโนกาโมะ จังหวัดกิฟุ ในปี 2019 โดยพิพิธภัณฑ์จัดแสดง Machine Tools นี้จะ  รวบรวม Machine Tools รุ่นต่าง ๆ ทั่วโลก นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 มาจัดแสดงในสภาพที่ทำงานได้จริง รวมถึงรถจักรไอน้ำและอากาศยาน เน้นย้ำถึงความสำคัญของ Machine Tools ต่ออุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งเป็นการทำตามความฝันของอดีตประธาน ในฐานะที่บริษัทมีอายุครบ 100 ปี

จากคำพูดของอดีตประธานที่ว่า “งานสุดท้ายของผม คืออยากให้คนรุ่นหลังรับรู้ถึงความสำคัญ และความสนุกสนานของอุตสาหกรรมการผลิต” ซึ่งในวันที่ประกาศสร้างพิพิธภัณฑ์นี้เอง ที่ลูกชายคนโต Mr. Tomohisa Yamazaki ประธานบริษัทคนปัจจุบันได้กล่าวว่า “เป็นสิ่งที่ตนอยากจะทำให้กับประธานคนก่อนมาโดยตลอด”

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีกำหนดเปิดให้เข้าชมในปี 2019 ซึ่งเป็นปีครบรอบ 100 ปี Yamazaki Mazak ซึ่งประธาน Tomohisa กล่าวว่า “เนื่องในโอกาส 100 ปีนี้ บริษัทเราก็อยากให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างคุณค่าให้กับสังคมขึ้นมา”

ภายในพิพิธภัณฑ์ได้ถูกวางแผนที่จะดัดแปลงชั้นใต้ดินของโรงงาน หรือ Yamazaki Mazak Optonics ซึ่งแต่เดิมเป็นฐานการผลิตเครื่องตัดเลเซอร์ โดยโรงงานมีความลึกลงไปจากพื้นดิน 11 เมตร และมีกำหนดใช้พื้นที่ 10,000 ตารางเมตร เป็นส่วนจัดแสดง ซึ่งปัจจุบันมีกำหนดจัดแสดง Machine Tools กว่า 600 รุ่น โดยใช้เงินลงทุนรวม 1.5 พันล้านเยน และอยู่ระหว่างการพิจารณาค่าธรรมเนียมในการเข้าชม

โดย Machine Tools ที่จะถูกนำมาจัดแสดงนั้น มีตั้งแต่เครื่องในอดีตอย่างเช่น Footpower Lathe ของสหรัฐฯ, Thread Cutting Lathe ของอังกฤษ และอื่น ๆ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเครื่องที่สามารถใช้งานได้จริง นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ทางอุตสาหกรรมอื่น เช่น รถยนต์ Ford Model T เพื่อให้ผู้เข้าชมเข้าใจถึงความสำคัญของ Machine Tools และผลผลิตจาก Machine Tools นั้น ๆ รวมถึงการแนะนำวิธีใช้ Machine Tools ด้วยการติดตั้งไลน์การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไว้ในตัวพิพิธภัณฑ์อีกด้วย ซึ่งเป็นการนำสายการผลิตส่วนหนึ่งที่ใช้งานจริงใน Yamazaki Mazak Manufacturing Corporation Minokamo Plant แห่งแรก เพื่อสาธิตการนำ IoT มาใช้ในกระบวนการผลิตอีกด้วย

ส่วนการผลิตเครื่องตัดเลเซอร์เดิมนั้น จะถูกย้ายไปดำเนินการที่ Yamazaki Mazak Manufacturing Corporation Minokamo Plant และเปลี่ยนผลิตภัณฑ์เดิมซึ่งใช้ CO2 Laser ไปเป็น Fiber Laser เพื่อลดความจำเป็นของโรงงานใต้ดินลง โดยปัจจุบันได้มียอดออเดอร์เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ และคาดว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาความต้องการโรงงานใต้ดินที่ต่อเติมลำบากได้