ญี่ปุ่น ดัน ยานยนต์อัตโนมัติให้ใช้ได้จริงในปี 2020

อัปเดตล่าสุด 4 พ.ค. 2561
  • Share :
  • 446 Reads   

ยานยนต์อัตโนมัติใกล้ความเป็นจริงขึ้นไปทุกวัน โดยรัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกนโยบายผลักดันบริการยานยนต์ไร้คนขับให้สามารถใช้งานจริงได้ในปีงบประมาณ 2020 ทำให้เกิดการทดลองนำยานยนต์อัตโนมัติมาวิ่งบนถนนจริงขึ้นทั่วประเทศญี่ปุ่น เพื่อตรวจสอบเทคโนโลยีว่าใช้งานได้จริงไหม แล้วสังคมมีท่าทีตอบรับเช่นไร โดยคาดว่า ยานยนต์อัตโนมัตินี้จะเป็นหนึ่งในแนวทางการตอบสนองต่อปัญหาขาดแคลนแรงงานและสังคมผู้สูงอายุในประเทศญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามแม้ในอุตสาหกรรมผู้ผลิตยานยนต์จะมีการตื่นตัวและแข่งขันด้านนี้อยู่มาก แต่เทคโนโลยีที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้นก็ยังคงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ รวมถึงปัญหาอีกหลายข้อที่ยังแก้ไม่ตก โดยเฉพาะในด้านความปลอดภัย การจะ “ปฏิวัติการคมนาคม” ได้นั้น จึงยังต้องการปัจจัยอื่น ๆ อีกมาก

ความจำเป็นที่มากขึ้น

นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ กล่าวไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2017 ว่า “จะแก้ปัญหาผู้ติดขัดในการเดินทางที่เกิดจากการขาดแคลนคนขับรถ ด้วยยานยนต์อัตโนมัติให้ได้ภายในปี 2020” และวางนโยบายในระยะยาวเพื่อเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีที่จำเป็น รวมถึงสาธิตการใช้งานจริงบนท้องถนน เพื่อให้ยานยนต์อัตโนมัติสามารถใช้งานได้จริง

ปัจจุบันยานยนต์อัตโนมัติในประเทศญี่ปุ่นนั้นกลายเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชนบท ซึ่งมีประชากรที่ไม่อาจเดินทางไปไหนมาไหนได้ด้วยตนเอง รวมถึงอัตราการเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่ของผู้สูงอายุที่มีมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงปัญหาการขาดแคลนคนขับรถ ซึ่งส่งผลกระทบทั้งภาคอุตสาหกรรมและการคมนาคมทั่วไปเป็นอย่างยิ่ง

ประเทศญี่ปุ่นมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องที่ไม่อาจรอได้ ส่งผลให้เกิดการทดสอบยานยนต์อัตโนมัติขึ้นทั่วทั้งประเทศ ภายใต้การผลักดันของ METI และ MLIT ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการทดสอบวิ่งบนถนนจริงในเมืองวาจิมะ จังหวัดอิชิคาวะ ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2017 ด้วยการทดสอบวิ่งบนถนนสาธารณะเป็นระยะทาง 1 กม. และทดสอบวิ่งด้วยการควบคุมจากระยะไกล เพื่อสาธิตการใช้งาน ทดสอบทางด้านเทคนิค และสำรวจปฏิกิริยาตอบรับที่สังคมมีต่อยานยนต์อัตโนมัติ ซึ่งรถที่ใช้ในการทดสอบนี้ ถูกพัฒนาขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ “ระดับที่ 4” ซึ่ง AIST เป็นผู้พัฒนาขึ้นมา

เป็นไปตามคาด

ในการทดสอบช่วงแรกนั้น มีระยะเวลารวม 2 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2017 ซึ่ง Mr. Naohito Kakimi ผู้อำนวนการฝ่ายการคมนาคมอัตโนมัติกล่าวว่าผลลัพธ์เป็นไปตามที่ได้คาดการณ์เอาไว้ โดยในการทดสอบนั้น รถที่ใช้ได้ทำการวิ่งทั้งหมด 15 รอบ และยืนยันการเลี้ยวและหยุดได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นผลจากการนำเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามาใช้ในการพัฒนา

อย่างไรก็ตามก็มีปัญหาเกิดขึ้น คือในช่วงทำการทดสอบได้เกิดพายุหิมะ ซึ่งอยู่นอกเหนือการคาดการณ์ ส่งผลให้เกิดหิมะทับถมบนถนนที่ใช้ในการทดสอบ ส่งผลให้เซนเซอร์ทำงานผิดพลาด ประเมินว่าหิมะเป็นสิ่งกีดขวาง และทำให้รถหยุดวิ่ง ทำให้ขณะนี้ได้มีการพัฒนาเซนเซอร์เพิ่มเติม เพื่อให้พร้อมทำการทดสอบวิ่งระยะที่ 2 ได้ในปีงบประมาณ 2018 นี้

ส่วนในด้านการพัฒนาระบบคุวบคุมก็มีความคืบหน้า ส่งผลให้ในเดือนเมษายนที่ผ่านมารัฐบาลญี่ปุ่นประกาศแผนร่างแนวทางด้านยานยนต์อัตโนมัติ ซึ่งรายงานระบุถึงการคาดการณ์ว่ายานยนต์อัตโนมัติจะสามารถวิ่งปนกับยานยนต์ทั่วไปได้ในช่วงปี 2020 – 2025 ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงความจำเป็นของยานยนต์อัตโนมัติต่อประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้จะมีการร่างกฎหมายและไกด์ไลน์ขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับแผนงานฉบับนี้

ร่างกฎหมายใหม่

ในการมุ่งสู่การใช้งานจริงของยานยนต์อัตโนมัติในปี 2020 นั้น ทาง METI ได้รายงานว่ามีผู้แสดงความเป็นห่วงถึงจุดสำคัญอีกจุด คือค่าใช้จ่ายที่จำเป็น ซึ่งหากไม่สามารถแก้ไขปัญหาในจุดนี้ได้ ต่อให้เทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานเพียบพร้อม แต่หากไม่สามารถดำเนินการในรูปแบบธุรกิจได้ก็จะไม่เกิดการบริการขึ้นมา ด้วยเหตุนี้เอง รัฐบาลฐี่ปุ่นจึงเปิดรับข้อเสนอจากฟากเอกชน เพื่อให้ได้โมเดลที่มีประสิทธิภาพ และสามารถร่างกฎหมายที่สอดคล้องกันขึ้นมาได้