
Fujitsu Thailand ผสาน SAP และ ServiceNow ยกระดับซัพพลายเชนผู้ผลิตไทยสู่ความยั่งยืน
ท่ามกลางยุคที่ซัพพลายเชนของผู้ผลิตไทยเต็มไปด้วยความท้าทายและความไม่แน่นอน การพลิกโฉมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลกลายเป็นหัวใจสำคัญของความยืดหยุ่นและความยั่งยืน Fujitsu Thailand จึงนำเสนอการผสานพลัง SAP และ ServiceNow เพื่อช่วยองค์กรไทยปรับปรุงกระบวนการทำงานให้รวดเร็ว ถูกต้อง และมองเห็นภาพรวมแบบเรียลไทม์ ในบทสัมภาษณ์นี้ เราได้พูดคุยกับ
- คุณปนัดดา พรหมวงศ์ศักดิ์ SAP Head Business Unit บริษัท ฟูจิตสึ (ประเทศไทย) จำกัด
- คุณพรชัย อังศรีพวง ServiceNow Lead Consultant บริษัท ฟูจิตสึ (ประเทศไทย) จำกัด
ถึงแนวทาง การปรับตัว และเคสจริงที่แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีสามารถขับเคลื่อนซัพพลายเชนไทยสู่ความยั่งยืนได้อย่างไร
บทบาทของ Fujitsu Thailand ในการช่วยองค์กรลูกค้า
คุณปนัดดา พรหมวงศ์ศักดิ์ เล่าว่า ตลอดกว่า 30 ปีในแวดวง ERP และ SRP บทบาทของเธอไม่ได้จำกัดแค่การนำเสนอ IT Solution เท่านั้น แต่คือการให้คำปรึกษา ถ่ายทอดองค์ความรู้ และประสบการณ์ เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านหรือการ Implement ระบบ ERP ของลูกค้าเป็นไปอย่างราบรื่น
“Fujitsu ได้ผ่านการปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญ เรามุ่งสู่การเป็นบริษัทบริการแบบครบวงจร จนปัจจุบันก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการด้านไอทีที่ใหญ่เป็นอันดับ 10 ของโลก” เธอกล่าว
ขณะที่คุณพรชัย อังศรีพวง อธิบายถึงบทบาทของตนในฐานะ ServiceNow Lead Consultant ที่ดูแลลูกค้าในประเทศไทยและทำงานร่วมกับทีม APAC โดยรับผิดชอบตั้งแต่ต้นจนจบโครงการ เขาเสริมว่า Fujitsu ได้รับการยกย่องให้เป็น ServiceNow Partner of the Year ติดต่อกันถึง 7 ปีซ้อน และมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรองกว่า 1,000 คนทั่วโลก
ความท้าทายของซัพพลายเชนผู้ผลิตไทย
ในมุมมองของคุณปนัดดา ผู้ผลิตไทยเผชิญความไม่แน่นอนหลายด้าน ตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด ไปจนถึงประเด็นการค้าโลก เช่น มาตรการภาษีทรัมป์ ที่ทำให้ซัพพลายเชนต้องปรับย้ายอย่างฉับพลัน “ แพลตฟอร์มที่จะใช้ในปัจจุบันจึงต้อง Flexible เพียงพอที่จะ Plug-in หรือ Plug-out ซัพพลายเออร์ใหม่-เก่าได้ทันที ขณะเดียวกันก็ต้องแข็งแรงและมั่นคง”
คุณพรชัยเสริมว่า ความต้องการหลักของลูกค้าคือ Workflow ที่ปรับเปลี่ยนได้รวดเร็ว ซึ่ง ServiceNow ตอบโจทย์เพราะเป็น Low-code Platform ที่พัฒนาได้อย่างรวดเร็วและเชื่อมโยงระบบอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บทบาทของ SAP และ ServiceNow Integration
SAP และ ServiceNow ถือเป็นซอฟต์แวร์ระดับโลกที่มีจุดแข็งต่างกัน Fujitsu เข้ามาทำหน้าที่เชื่อมต่อทั้งสองให้ทำงานเสริมกันอย่างไร้รอยต่อ โดยการออกแบบและสร้างเทมเพลตที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย
คุณปนัดดาอธิบายว่า “เราทำให้การเชื่อมโยงข้อมูลเป็น Single Data บน Cloud ทำงานแบบเรียลไทม์ ไม่ใช่การคัดลอกข้อมูลที่ไม่สอดคล้องกัน วิธีนี้ช่วยให้องค์กรลงทุนอย่างคุ้มค่า ใช้งานได้ยั่งยืน และพร้อมต่อยอดในอนาคต”
ความยั่งยืนและดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน
Fujitsu มองว่า ความยั่งยืนของซัพพลายเชนไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่คือการปรับกระบวนการและมุมมอง
- ด้านซอฟต์แวร์: ลูกค้าต้องได้ประโยชน์จากการอัปเกรดที่รวดเร็วและต่อเนื่อง
- ด้านการดำเนินธุรกิจ: ServiceNow ช่วยให้มองเห็นทุกกระบวนการ ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และเพิ่มความปลอดภัยการทำงาน
“ทางเลือกที่คุ้มค่าที่สุดคือการจ่ายเท่าที่ใช้ ผ่านโมเดล Subscription แทนการลงทุนซื้อระบบเองทั้งหมด เพราะนี่คือการลงทุนที่ยั่งยืน” คุณปนัดดากล่าว
ตัวอย่างความสำเร็จจาก Fujitsu Thailand
- ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า: เมื่อเกิดปัญหาชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้ไลน์ผลิตหยุดชะงัก ServiceNow เข้าไปช่วยตรวจพบปัญหาแต่เนิ่น ๆ และแก้ไขได้ทันเวลา
- ธุรกิจจัดจำหน่าย: ServiceNow ทำให้ข้อมูลทุกตัวเลขถูกต้อง รวดเร็ว และเรียลไทม์ ส่งผลให้การตัดสินใจมีประสิทธิภาพและระบบยั่งยืน
แนวโน้มซัพพลายเชนไทยในอีก 3-5 ปี
ทั้งสองผู้เชี่ยวชาญเห็นตรงกันว่า ผู้ผลิตไทยกำลังเร่งนำ AI, IoT และการรวมข้อมูล One Data มาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้แรงงาน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่เริ่มเห็นการทำ Standardized Data จนเชื่อมต่อแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้จริง
ฝากถึงผู้ประกอบการและเชิญร่วมงาน FAN 2025
คุณปนัดดาและคุณพรชัยทิ้งท้ายว่า “ผู้ประกอบการไทยไม่กลัวเทคโนโลยี เพียงแต่อยากเห็นตัวอย่างความสำเร็จก่อน ซึ่ง Fujitsu มีกรณีศึกษาจากทั่วโลกมาแชร์ และสิ่งที่เรานำเสนอไม่ใช่แค่การเปลี่ยนระบบ แต่คือการสร้างคุณค่าและความยั่งยืนให้กับธุรกิจ”
ทั้งนี้ Fujitsu เตรียมจัดงาน Fujitsu ActivateNow Southeast Asia 2025 ภายใต้แนวคิด Transformation Beyond Boundaries วันที่ 9 ตุลาคม 2568 เวลา 14:00–19:00 น. ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ
งานนี้จะอัปเดตเทคโนโลยีใหม่ ๆ แชร์กรณีศึกษาจากผู้นำองค์กรของ Kiatnakin Phatra, Bangchak, TOYOTA Connected และ Bitkub และมอบประสบการณ์ผ่าน Experience Tracks เพื่อช่วยให้องค์กรเดินหน้าสู่ 3P: Profit, People, Planet ได้อย่างยั่งยืน