ETDA ไขทุกข้อสงสัย e-Contract สัญญาดิจิทัลถูกกฎหมาย

ETDA เจาะลึก e-Contract: สัญญาดิจิทัลใช้ได้จริง ปลอดภัย ถูกกฎหมาย พร้อมตอบข้อสงสัยยอดฮิต

อัปเดตล่าสุด 30 พ.ค. 2568
  • Share :

ETDA เปิดทุกมุมมองเรื่อง “e-Contract” สัญญาดิจิทัลที่ใช้ได้จริง ปลอดภัย และถูกกฎหมาย พร้อมตอบข้อสงสัยยอดฮิต เช่น ลายเซ็นแบบไหนถึงน่าเชื่อถือ? ใช้ในศาลได้หรือไม่? พร้อมแนะแนวทางเริ่มต้นใช้งานจริงสำหรับองค์กรทุกขนา

แม้พระราชบัญญัติธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์…จะมีผลบังคับใช้ในไทยมานานกว่า 20 ปี และมีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานทางกฎหมายสำหรับการทำธุรกรรมในยุคดิจิทัล แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า จุดเปลี่ยนที่ทำให้เราทุกคนเริ่มหันมาทำธุรกรรมออนไลน์อย่างจริงจัง กลับเพิ่งเกิดขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 เมื่อโลกต้องเผชิญกับมาตรการล็อกดาวน์ การเดินทางและการดำเนินธุรกิจรูปแบบเดิมถูกจำกัด อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การทำธุรกรรรมออนไลน์ จากที่เคยเป็นทางเลือก ก็กลายมาเป็นทางหลักในทุกวันนี้ 

โดยเฉพาะการทำสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Contract ที่ถูกพูดถึงและใช้เพิ่มมากขึ้น เพราะเข้ามาเปลี่ยนวิธีการจัดทำและลงนามในสัญญา จากเดิมที่ต้องใช้กระดาษและพบปะกันโดยตรง กลายเป็นกระบวนการที่ทำได้ผ่านระบบออนไลน์ อย่างไรก็ดี แม้หลายองค์กรจะเริ่มนำ e-Contract ไปใช้งานจริงแล้วแต่ก็ยังมีอีกไม่น้อยที่ยังมีคำถามในใจ ไม่ว่าจะเป็น...สัญญาอิเล็กทรอนิกส์ ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่? ปลอดภัยและเชื่อถือได้แค่ไหน? ต้องเตรียมพร้อมเรื่องเทคโนโลยี อย่างไรบ้าง?

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA ในฐานะหน่วยงานที่ทำหน้าที่ ส่งเสริม สนับสนุน และสร้างความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมออนไลน์ของประเทศ ไม่รอช้า เปิดเวที ETDA Live ไลฟ์กำลังดี EP.3: “ปิดดีลสัญญา จบไว มั่นใจด้วย e-Contract” พาทุกคนไปเจาะลึกและตอบทุกคำถามเกี่ยวกับสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ โดยชวน  คุณสมประสงค์ โหรชัยยะ ผู้ชำนาญการอาวุโส จากศูนย์พัฒนากฎหมาย ETDA และ คุณสิริณัฐ ตั้งธรรมจิต หัวหน้าทีมที่ปรึกษาและวิทยากรจาก ADTE by ETDA มาร่วมให้ความรู้เพื่อสร้างความมั่นใจว่า “e-Contract ปลอดภัย เชื่อถือได้ และมีกฎหมายรับรอง!

รู้หรือไม่ e-Contract อยู่รอบตัวเรา! กฎหมายรองรับ แค่ “แสดงเจตนา-ระบุตัวตน” ชัด

คำว่า “e-Contract” อาจฟังดูเหมือนไกลตัว แต่ในความเป็นจริงแล้วเราทุกคนต่างใช้ e-Contract อยู่แทบทุกวัน เพราะ e-Contract  คือการทำข้อตกลงระหว่างบุคคลหรือองค์กรผ่านช่องทางดิจิทัล โดยไม่ต้องใช้กระดาษหรือเซ็นชื่อด้วยปากกา แต่สามารถยืนยันข้อตกลงได้ผ่านระบบดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น การกดยอมรับเงื่อนไขในแอปพลิเคชัน การคุยโต้ตอบทางอีเมลที่ลงชื่อกำกับไว้ท้ายข้อความ การแนบไฟล์สัญญาบนแพลตฟอร์มออนไลน์แล้วคลิก “ยืนยัน” หรือการใช้ e-Signature และ Digital Signature เช่น การเซ็นชื่อด้วยปากกา Stylus บนแท็บเล็ต ขอเพียงแค่ “แสดงเจตนา” และ “ระบุตัวตน” ของผู้ลงนามได้อย่างชัดเจน ก็ถือเป็น e-Contract ทั้งสิ้น และมีผลทางกฎหมาย เช่นเดียวกับการทำสัญญาบนกระดาษทุกประการ

ปัจจุบัน e-Contract ใช้ได้เกือบทุกธุรกรรมทั้ง ภาครัฐและเอกชน ยกเว้นแค่บางกรณี ที่กฎหมายระบุไว้ว่าต้องใช้สัญญาแบบเดิมเท่านั้น อย่างสัญญาที่เกี่ยวกับครอบครัวและมรดก เช่น พินัยกรรม การหย่า หรือสัญญาครอบครัวอื่น ๆ ซึ่งมีเนื้อหาละเอียดอ่อน จำเป็นต้องมีพยานและเจ้าหน้าที่ร่วมรับรู้

เมื่อทุกอย่างทำได้ครบ จบทุกขั้นตอนในโลกออนไลน์ ก็ไม่จำเป็นต้องพิมพ์ ไม่ต้องใช้กระดาษ ไม่ต้องนัดพบกันเพื่อเซ็น และไม่ต้องรอรับ-ส่งเอกสารไป-มาให้เสียเวลา แค่ปลายนิ้วคลิก! ก็สามารถทำสัญญาได้ทุกที่ ทุกเวลา พร้อมมีผลทันทีแบบ Real-time ไม่เพียงช่วยลดต้นทุน ประหยัดเวลา แต่ยังช่วยลดภาระในการจัดเก็บเอกสาร เพิ่มความแม่นยำในการตรวจสอบ ติดตาม และลดความเสี่ยงจากเอกสารสูญหายหรือถูกปลอมแปลง 

e-Contract ข้อดีเพียบ แต่ทำไมหลายองค์กร ยังไม่ใช้ 

แม้ e-Contract ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะมี พ.ร.บ.ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ รองรับการใช้งานมานานแล้ว อีกทั้งยังมีข้อดีมากมาย แต่หลายๆ องค์กรก็ยัง “ไม่มั่นใจ” และยังไม่กล้าเปลี่ยนมาทำสัญญาแบบ e-Contract เพราะยังมีความกังวลหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น

  • ยังไม่มั่นใจเกี่ยวกับผลและประเด็นทางกฎหมาย แม้จะมีกฎหมายรับรองแล้ว แต่หลายองค์กร ยังกังวลว่าศาลอาจจะไม่ยอมรับ e-Contract หากเกิดข้อพิพาท ฟ้องร้อง
  • “เทคโนโลยีที่ใช้ลงนาม” เชื่อถือได้แค่ไหน เช่น ปากกา Stylus, PIN, หรือการลงชื่อท้ายอีเมล จะถือเป็นการลง “ลายมือชื่อ” ตามกฎหมายได้จริงหรือไม่ สามารถยืนยันตัวตนหรือแสดงเจตนาได้หรือเปล่า
  • กังวลเรื่องความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือของเอกสาร ว่าหากไม่มีระบบจัดเก็บที่ดี ไฟล์อาจถูกปลอมแปลง แก้ไขโดยไม่รู้ตัวหรือไม่
  • มองว่าต้องลงทุนเพิ่ม ทั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์หรืออบรมพนักงาน จึงทำให้มองว่า เป็นภาระมากกว่าโอกาส
  • ยึดติดกับวัฒนธรรมเดิมที่ใช้กระดาษและลายเซ็นด้วยปากกา
  • “คู่สัญญา” ยังไม่พร้อม นอกจากความพร้อมขององค์กรตนเองแล้ว ยังต้องดูความพร้อมของอีกฝ่าย เพราะหากคู่สัญญายังไม่พร้อม ไม่เข้าใจ หรือยังชินกับระบบกระดาษแบบเดิมก็ยากที่จะเปลี่ยนแปลง
  • แนวทางที่มีอาจยังไม่ตอบโจทย์และไม่เข้ากับบริบทขององค์กร และหลายองค์กรก็ยังต้องการคำแนะนำที่ลงลึกในรายละเอียดและตอบโจทย์เฉพาะของตนเอง

เปิดเงื่อนไข ใช้ e-Contract  อย่างไร กฎหมายรองรับ

e-Contract หรือสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ เป็นหนึ่งในธุรกรรมสำคัญที่หลายองค์กร หันมาใช้กันมากขึ้นในยุคดิจิทัล ด้วยความสะดวก รวดเร็ว และลดภาระจากเอกสารกระดาษ โดยผู้เชี่ยวชาญจาก ETDA ยืนยันชัดเจนว่า “e-Contract เป็นธุรกรรมที่ปลอดภัย เชื่อถือได้ และได้รับการรองรับตาม พระราชบัญญัติธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544” แต่การใช้งาน e-Contract ให้ถูกต้องตามกฎหมายและปลอดภัย ต้องมี องค์ประกอบหลักครบ 3 ด้าน ดังต่อไปนี้ 

  • ตัวเอกสารและเนื้อหาของสัญญาข้อมูลทั้งหมดต้องสามารถเข้าถึงได้ (Accessible) มีความชัดเจน ไม่คลุมเครือ สามารถเปิดดูย้อนหลังได้เสมอ โดยเนื้อหาต่างๆ ยังคงเหมือนเดิม ไม่ถูกแก้ไข เปลี่ยนแปลง
  • ต้องมี "ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Signature)” ที่ระบุตัวตนผู้ลงนาม และ แสดงเจตนา ได้ชัดเจน แม้ไม่ได้เซ็นลงบนกระดาษ แต่ต้องมี e-Signature ซึ่งมี 2 แบบหลักๆ ได้แก่ e-Signature ทั่วไปที่ระบุตัวตนได้ เช่น การลงชื่อท้ายอีเมล การล็อกอินเข้าใช้งานแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ การกดยืนยัน กดยอมรับ การใช้ PIN/Password รวมถึงการเซ็นผ่าน Stylus Pen และอีกรูปแบบ Digital Signature คือ e-Signature อีกรูปแบบหนึ่งที่มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือมากกว่า เพราะมีการเข้ารหัสและถอดรหัสด้วยระบบ Public/Private Key ทำให้สามารถตรวจสอบได้ ว่าใครเป็นคนลงนาม ลงเมื่อไหร่ มีการแก้ไขภายหลังหรือไม่ และมีกระบวนการที่พิสูจน์ได้ว่าคนที่ลงนามเป็นคนนี้จริงๆ
  • มีระบบจัดเก็บที่ปลอดภัย ตรวจสอบได้ และรองรับการพิสูจน์ย้อนหลัง ควรมีการจัดเก็บไว้ในระบบกลางขององค์กร (Central Storage) ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ส่วนตัว เพื่อให้สามารถเข้าถึงและใช้งานได้ตลอดเวลา พร้อมทั้งต้องมีระบบดูแลความปลอดภัย ควบคุมสิทธิ์ การเข้าถึงข้อมูล มีระบบป้องกันการเปลี่ยนแปลง แก้ไข และแจ้งเตือนเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งตรวจสอบย้อนหลังได้ 

เริ่มใช้ e-Contract เตรียมตัวอย่างไร?

สำหรับองค์กรที่สนใจอยากเปลี่ยนมาใช้ e-Contract แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี ผู้เชี่ยวชาญ ETDA แนะนำแนวทางเบื้องต้นไว้คือ ก่อนติดตั้งระบบหรือโซลูชันใดๆ สิ่งที่องค์กรควรมีเป็นอันดับแรกคือ ความเข้าใจที่ถูกต้องทั้งในมุมกฎหมาย เทคโนโลยี และวิธีการใช้งาน ซึ่งปัจจุบัน ETDA ได้จัดทำ Guideline ที่ชื่อว่า “ข้อเสนอแนะแนวทางการจัดทำนิติกรรมหรือสัญญาในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์” เพื่อเป็นแนวปฏิบัติให้กับผู้ที่สนใจ ต่อมาคือ เลือกโซลูชันที่ตอบโจทย์และเหมาะกับบริบทขององค์กร โดยการใช้ e-Contract ไม่จำเป็นต้องลงทุนสูง เพราะสามารถเลือกโซลูชันที่เหมาะกับขนาดและบริบทของแต่ละองค์กรได้ และไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจ คู่สัญญา ความเสี่ยง และความซับซ้อนของสัญญาแต่ละประเภท เช่น บางธุรกิจอาจเหมาะกับระบบง่าย ๆ เพียงแค่ให้ลูกค้ากดยืนยันผ่านอีเมล บางธุรกิจต้องการความปลอดภัยสูง จำเป็นต้องใช้ Digital Signature บางธุรกิจมีคู่สัญญาหลายแบบก็อาจใช้หลายโซลูชันผสมกัน นอกจากนี้ หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดยังไม่พร้อมใช้ e-Contract แบบ 100% ก็สามารถใช้แนวทางแบบผสม (Hybrid) ได้        เช่น คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งอาจลงลายมือชื่อบนกระดาษ แล้วสแกนหรือแปลงเป็นไฟล์ดิจิทัล และส่งให้อีกฝ่ายลงนามด้วย Digital Signature ก็สามารถทำได้ตามกฎหมาย หากกระบวนการ

จัดเก็บและพิสูจน์ตัวตนถูกต้อง และต้องมั่นใจได้ว่าระบบหรือวิธีการที่ใช้นั้นสามารถระบุตัวตน แสดงเจตนา และมีการจัดเก็บที่ปลอดภัยสอดคล้องตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้ หากครบถ้วนตามนี้ก็ถือว่า ถูกต้องสมบูรณ์และมีผลทางกฎหมายทันที

นอกจาก พ.ร.บ. ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่รับรองการใช้ e-Contract แล้ว อีกหนึ่งความก้าวหน้าที่ช่วยเสริมความมั่นใจยิ่งขึ้นคือ การที่ประเทศไทยได้เข้าร่วม “อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการใช้การติดต่อสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ในสัญญาระหว่างประเทศ” หรือเรียกย่อๆ ว่า อนุสัญญา ECC ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งถือเป็นมาตรฐานสากลที่หลายประเทศใช้เป็นกรอบร่วมกันในการรับรองธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างประเทศ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในประเทศไทยตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม 2568เป็นต้นไป นั่นหมายความว่าในอนาคตอันใกล้ e-Contract ไม่เพียงแค่มีกฎหมาย รองรับในประเทศไทย แต่ยังได้รับการยอมรับในระดับสากล

ผู้เชี่ยวชาญ ETDA ย้ำ การใช้ e-Contract ไม่ใช่การ “บังคับให้เปลี่ยน” แต่คือ การ “ชี้ให้เห็นโอกาส” และ “เสนอทางเลือก” ที่ช่วยประหยัดเวลา ทรัพยากร และเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างแท้จริง ซึ่งหากองค์กรหรือหน่วยงานใดมีความพร้อมและต้องการเริ่มต้นใช้งาน แต่ยังมีข้อสงสัยหรือยังไม่มั่นใจว่าจะเริ่มอย่างไร ETDA พร้อมให้คำปรึกษาแบบเจาะลึกในทุกขั้นตอน เพื่อช่วยให้ทุกองค์กรเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลได้อย่างมั่นใจและ“ชีวิตดีเมื่อมีดิจิทัล” ไปด้วยกัน

 

#eContract #สัญญาดิจิทัล #ETDA #ธุรกรรมออนไลน์ #eSignature #MReportTH #IndustryNews

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / X / YouTube @MreportTH