อินเทล โรงงานอัจฉริยะ

Intel สร้าง Smart Factory ดันอุตฯ ใช้ 5G และ AI

อัปเดตล่าสุด 8 ก.ค. 2564
  • Share :
  • 2,764 Reads   

อินเทล (Intel) ร่วมพันธมิตรสร้างโรงงานอัจฉริยะ Smart Factory แบบ end-to-end รวบตึงการใช้ Industry 4.0 และ Digitalization ในอุตสาหกรรมการผลิตทุกขนาด

Advertisement

Smart Factory ของอินเทล จะตัังอยู่ที่เมืองเวโรนา ประเทศอิตาลี โดยพันธมิตรที่ร่วมสร้างโรงงานอัจฉริยะครั้งนี้ประกอบด้วย EXOR International, TIM, JMA Wireless เพื่อตอกย้ำให้ภาคอุตสาหกรรมเร่งใช้เทคโนโลยียุคใหม่

Claudio Ambra chief technical officer บริษัท EXOR International ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์สำหรับการใช้งานในภาคอุตสาหกรรมและ HMI (Human Machine Interfaces) เปิดเผยว่า โรงงานอัจฉริยะแห่งนี้จะใช้เทคโนโลยียุคใหม่ ทั้งระบบคลาวด์, Edge Computing, 5G, และ AI เพื่อสาธิตว่าธุรกิจทุกขนาดสามารถใช้งาน Smart Factory ได้จริง ซึ่งการพิสูจน์ให้ SME เห็นสิ่งนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากที่จะช่วยให้ธุรกิจดำเนินต่อได้ในโลกที่ตลาดมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว

ตลาด Smart Factory เติบโตเฉลี่ย 12.2% ต่อปี

อินเทลรายงานว่า ปัจจุบันตลาด Smart Factory โตเฉลี่ย 12.2% ต่อปี และจะมีมูลค่า 5.06 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2027 ซึ่งผู้ผลิตหลายรายได้นำเทคโนโลยี IIoT และ 5G เข้ามามีส่วนช่วยในการเพิ่มผลผลิต ประหยัดพลังงาน และลดความจำเป็นในการซ่อมบำรุงเครื่องจักร แต่ก็ยังมีคำถามว่าจะนำไปใช้อย่างไรได้อีก 

“มีคำถามในตลาดว่า จะใช้ 5G และ AI พัฒนาโรงงานยังไงได้บ้าง”

 

Intel Smart Factory ขยายภาพการใช้ 5G และ AI พัฒนาโรงงาน 

  • การจัดตารางเวลาทรัพยากรบุคคลแบบอิสระ ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงคำสั่งซื้อและความพร้อมของพนักงานในแบบเรียลไทม์
  • ตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนว่าทุกอย่างที่วางแผนไว้รายสัปดาห์ รวมถึงวัสดุสิ้นเปลือง ส่วนประกอบ และเอกสาร อยู่ในลำดับงาน และพร้อมสำหรับการผลิตหรือไม่
  • อัปเดตสถานะคำสั่งซื้อและความก้าวหน้าของงานแบบเรียลไทม์ โดยไม่คำนึงถึงขนาดคำสั่งซื้อ

Christine Boles รองประธานฝ่าย IoT และผู้จัดการทั่วไปแผนกโซลูชันอุตสาหกรรม บริษัทอินเทล รายงานว่า ปัจจุบันมีการนำโซลูชัน Industry 4.0 มาใช้งานมากขึ้น และรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งลูกค้าของบริษัทหลายรายก็มีความเข้าใจว่า 5G และ AI สามารถมีบทบาทในการ digital transformation ได้ โรงงานที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้จะการสาธิตให้เห็นว่า โซลูชันพวกนี้จะถูกนำมาใช้อย่างไร เพิ่มผลผลิตอย่างไร ลดค่าใช้จ่ายอย่างไร และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ได้ยังไงบ้าง

Intel Smart Factory จะมีการใช้ 5G แบบ on-premise ซึ่งเป็นการวางเครือข่าย 5G เพื่อใช้งานภายในโรงงานแทนการเชื่อมต่อกับเครือข่าย 5G จากภายนอก เพื่อสาธิตให้เห็นว่า ผู้ผลิตสามารถสร้าง Private Network จากเครือข่าย 5G ในสายการผลิตของตนได้  และนำไปเชื่อมต่อกับโซลูชันที่มีอยู่ โดย 5G ในโรงงานที่สาธิตนี้จะมีคุณสมับติสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่

  • ปรับปรุงการสื่อสาร ยกระดับการออกแบบโรงงานให้ดียิ่งขึ้น
  • เปิดใช้งานการสื่อสารแบบ peer-to-peer ระหว่างหุ่นยนต์อุตสาหกรรม
  • สาธิตความแตกต่างในการเชื่อมต่อ Edge Computing ระหว่างแบบมีสายและไร้สาย

สำหรับ 5G แบบ on-premise ในโรงงานนั้น ภาคอุตสาหกรรมญี่ปุ่นได้มีแนวคิดเช่นเดียวกันซึ่งก็คือ Local 5G โดยติดตั้งเครือข่าย 5G ในพื้นที่จำกัด เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายในพื้นที่นั้น เช่น อุปกรณ์ IoT, หุ่นยนต์, โดรน, ยานยนต์อัตโนมัติ, AGV, และอื่น ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อให้การรับส่งข้อมูลระหว่างเครื่องจักรเป็นไปแบบเรียลไทม์ รวมถึงการควบคุมหุ่นยนต์จากทางไกลอีกด้วย 

 

#Smart Factory #Industry 4.0 #Digital Transformation #Edge Computing #AI #IoT #IIoT #5G #5G แบบ on-premise #5G ภาคอุตสาหกรรม #5G แบบ on-premise ในโรงงาน #5G ในโรงงาน #Local 5G #โรงงานอัจฉริยะแบบ end-to-end #Remote Controlling #ควบคุมหุ่นยนต์จากทางไกล #ควบคุมเครื่องจักรจากทางไกล #การรับส่งข้อมูลระหว่างเครื่องจักรแบบเรียลไทม์ #โรงงานสมัยใหม่ #Mreport #M Report #mreportth

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ