Net-Zero Industry Act  กฎหมายว่าด้วยอุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

Net-Zero Industry Act กฎหมายว่าด้วยอุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

อัปเดตล่าสุด 2 พ.ค. 2567
  • Share :
  • 771 Reads   

คณะกรรมาธิการยุโรป ได้เสนอพระราชบัญญัติกฎหมายว่าด้วยอุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ "Net-Zero Industry Act หรือ NZA" เพื่อขยายขอบข่ายการผลิตเทคโนโลยีสะอาดในสหภาพยุโรป และเพื่อให้มั่นใจว่าสหภาพยุโรป มีความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางของการเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยีพลังงานสะอาดซึ่ง Net-Zero Industry Act หรือ NZIA เป็นส่วนหนึ่งของเสาหลักของ Green Deal Industrial Plan ที่จะมาช่วยเสริมสร้างให้สหภาพยุโรปมีมาตรการที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแช่งชันของการเป็นฐานอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสุทธิเป็นศูนย์ และปรับปรุงความยืดหยุ่นด้านพลังงานของสหภาพยุโรป และช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์ ของแผน Fit-for-55 และ REPowerEU2 ได้สำเร็จ

นอกจากนั้นแล้ว NZA ยังจะทำให้การจัดการระบบพลังงานของสหภาพยุโรปมีความมั่นคงและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น โดยมีการกำหนดเงื่อนไขในการจัดตั้งโครงการที่เกี่ยวกับการปล่อยก๊าชเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์เพื่อดึงดูดการลงทุนเข้ามาในสหภาพยุโรป โดยมีเป้าหมายเพื่อให้มีกำลังในการผลิตเทคโนโลยีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ เชิงกลยุทธ์โดยรวมของสหภาพยุโรปมีค่าใกล้เคียงหรือมีค่าอย่างน้อยร้อยละ 40 ของความต้องการใช้งานทั้งหมดของสหภาพยุโรปภายในปี 2030 สิ่งนี้จะช่วยเร่งไปสู่เป้าหมายด้านพลังงานและสภาพภูมิอากาศของสหภาพยุโรปและการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศ ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมในสหภาพยุโรป สร้างงานที่มีคุณภาพ และลดความเสี่ยงในการพึ่งพาพลังงานเชื้อเพลิงของรัสเซียอีกด้วย

1 Fit-for-55 คือ ชุดนโยบายด้นกฎหมายพลังงนและสภาพภูมิอากาศของสหภาพยุโรป โดยมีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกใน 27 ประเทศ สหภาพยุโรปลงให้ได้ 55% ให้สำเร็จภายในปี 2030 และมุ่งมั่นที่จะเป็นภูมิภาคแรกของโลกที่เป็นกลางทางด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate Neutral) หรือ การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050/European Commission

2 REPowerEU คือ แผนปฏิบัติการเพื่อทำให้สหภาพยุโรปมีแหล่งพลังงานที่มั่นคง ยั่งยืน และมีราคาที่เหมาะสม รวมทั้งเป็นอิสระจากเชื้อเพลิงฟอสซิลของรัสเซีย/European Commission

กฎระเบียบนี้ครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบ และอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการผลิตเทคโนโลยีเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดยแยกระหว่างเทคโนโลยีเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ และเทคโนโลยีเรือนกระจกสุทธิ เป็นศูนย์เชิงกลยุทธ์ ซึ่งเทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์นี้จะมีส่วนสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2573 เนื่องจากจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่น การได้รับประโยชน์จากเกณฑ์ความยืดหยุ่นในการประมูล และความเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นโครงการที่ได้รับความสำคัญที่จะต้องประกอบไปด้วยหลักเกณฑ์ 3 ข้อต่อไปนี้ 1) ระดับความพร้อมทางเทคโนโลยี 2) การมีส่วนร่วมในการลดกรปล่อยก๊ซคาร์บอนและความสามารถในการแข่งขัน และ 3) ความยืดหยุ่นของระบบพลังงน เทคโนโลยีที่มีส่วนสำคัญในการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน (Decarbonization) ประกอบด้วยเทคโนโลยีต่อไปนี้

  • เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Photovoltaic) หรือจากพลังงานความร้อนของแสงอาทิตย์ (Solar Thermal)
  • เทคโนโลยีพลังงานลมบนบกและพลังงานหมุนเวียนนอกชายฝั่ง
  • เทคโนโลยีแบตเตอรี่ / การจัดเก็บ
  • ปั๊มความร้อน (Heat Pumps) และเทคโนโลยีพลังงานความร้อนใต้พิภพ
  • อิเล็กโทรไลเซอร์และเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell)
  • เทคโนโลยีก๊าซชีวภาพ / ไบโอมีเทน
  • เทคโนโลยีการจับและการจัดเก็บคาร์บอน (CCS)
  • เทคโนโลยีโครงข่ายไฟฟ้า (Grid Technologies)


ข้อเสนอนี้ได้กำหนดเกณฑ์มาตรฐานสำหรับกำลังการผลิตของเทคโนโลยีเรือนกระจกเป็นศูนย์สุทธิเชิงกลยุทธ์เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานของสหภาพยุโรปอย่างน้อยร้อยละ 40 ภายในปี พ.ศ. 2573 เกณฑ์มาตรฐานดังกล่าวจะช่วยให้สามารถติดตามความคืบหน้าและอำนวยความสะดวกในการใช้งานของโครงการดักจับและจัดเก็บก๊าซคาร์บอนให้แก่ผู้ผลิตและนักลงทุน และเพิ่มความพร้อมของสถานที่จัดเก็บก๊าซคาร์บอน ซึ่งพระราชบัญญัติได้กำหนดเป้าหมายความจุการจัดเก็บก๊าซคาร์บอนไว้ที่ 50 ล้านตันภายในปี พ.ศ. 2573

การดำเนินงานที่สำคัญเพื่อขับเคลื่อนการลงทุนด้านการผลิตเทคโนโลยีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

การกำหนดเงื่อนไขที่เอื้อต่อการลงทุน NZA ได้ปรับปรุงเงื่อนไขที่จำเป็นเพื่ออำนวยความสะดวกการลงทุนในโครงการที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีการปล่อยก๊ชเรือนกระจกเป็นศูนย์ โดยการปรับปรุงข้อมูล ลดภาระการบริหารจัดการในการจัดตั้งโครงการ อำนวยความสะดวกในการเข้าถึงตลาด ลดความซับซ้อนของกระบวนการจัดซื้อ จัดจ้างภาครัฐ และการประมูล ซึ่งจะทำให้ระยะเวลาในการอนุญาตน้อยลงและขั้นตอนที่คล่องตัวมากขึ้น สนับสนุนนวัตกรรมผ่านการทำแซนด์บ็อกซ์ โดยให้ประเทศสมาชิกสามารถทดสอบเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ และกระตุ้นการสร้างนวัตกรรมภายใต้เงื่อนไขการกำกับดูแลที่ยืดหยุ่น

การเพิ่มพูนทักษะแรงงาน เพื่อให้มั่นใจว่ามีแรงงานที่มีทักษะที่สามารถสนับสนุนการผลิตเทคโนโลยีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในสหภาพยุโรป NZA ได้นำมาตรการใหม่มาใช้รวมถึงการจัดตั้ง Net- Zero Industry Academies โดยมีเป้าหมายที่จะฝึกอบรมผู้เรียน 100,000 คนในแต่ละแห่งภายใน 3 ปี นับจากการก่อตั้ง

Net-Zero Platform จัดตั้งขึ้นโดยคณะกรรมาธิการและประเทศในสหภาพยุโรป ซึ่งจะช่วยในการประสานการดำเนินงานและแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีความสนใจในภาคอุตสาหกรรมที่เป็นศูนย์สุทธิสามารถทำงานร่วมกันและมั่นใจได้ว่ามีข้อมูลเพียงพอในการติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานไปสู่วัตถุประสงค์ของ Net-Zero Industry Act โดย Net-Zero Europe Platform จะช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งเสริมการนำเทคโนโลยีที่มีการปล่อยก๊ซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์มาใช้ทั่วโลก และสนับสนุนบทบาทของความสามารถทางอุตสาหกรรมของสหภาพยุโรปในการปูทางสำหรับการเปลี่ยนแปลงพลังงานสะอาดทั่วโลก


ไฮโดรเจน เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่สำคัญของกฎหมายอุตสาหกรรม Net-Zeroของสหภาพยุโรป ไฮโดรเจนเป็นสิ่งที่สำคัญในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในภาคอุตสาหกรรม และบรรลุเป้าหมายสภาพภูมิอากาศปี 2030 ของสหภาพยุโรปและความเป็นกลางของสภาพภูมิอากาศ ในปี 2050 ด้วยการขยายขนาดในด้านการผลิต และลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในภาคอุตสาหกรรมของสหภาพยุโรป

นอกจากนั้น ไฮโดรเจนยังตอบสนองความต้องการของภาคส่วนที่ช้พลังงานไฟฟ้ายาก คณะกรรมาธิการของสหภาพยุโรปจึงได้จัดตั้ง ธนาคารไฮโดรเจนแห่งยุโรป ขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการใช้ไฮโดรเจนหมุนเวียนภายในสหภาพยุโรป รวมถึงการนำเข้าจากประเทศพันธมิตรโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อปลดล็อกการลงทุนของภาคเอกชนโดยการเชื่อมโยงการจัดหาพลังงานหมุนเวียนเข้ากับอุปสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ ธนาคารจะสร้างตลาดไฮโดรเจนที่เกิดขึ้นใหม่ในยุโรป เสนอโอกาสในการเติบโตใหม่ ๆ และสร้างงานที่มีคุณภาพ และช่วยให้บรรลุเป้าหมายไฮโดรเจนของสหภาพยุโรป ซึ่งสอดคล้องกับ REPowerEU และเส้นทางสู่ความเป็นกลางของสภาพภูมิอากาศ

ถึงแม้ว่าตอนนี้ไฮโดรเจนจะยังไม่ใช่พลังงานหลักที่ได้รับความนิยม แต่ก็ถือเป็นพลังงานทางเลือกที่มีความน่าสนใจในการคิดคันนวัตกรรมเพื่อให้เป็นพลังงานสะอาดที่จะนำมาแก้ไขปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดการปลดปล่อยมลพิษ พร้อมมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าชเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) และนอกจากกฎหมายว่าด้วยอุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ที่สหภาพยุโรปได้เร่งดำเนินการเพื่อเป็นกลุ่มประเทศผู้นำที่มุ่งมั่นจะบรรลุความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศแล้ว จะเห็นได้ว่า แนวทางการดำเนินงานของ NZA เมื่อรวมกับข้อเสนอกฎหมายอื่น ๆ เช่น กฎหมายว่าด้วยวัตถุดิบสำคัญของยุโรป (Critical Raw Materials Act) และการปฏิรูปการออกแบบตลาดไฟฟ้าแล้ว Net-Zero Industry Act จะกำหนดกรอบการทำงานที่ชัดเจนขึ้นเพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าอย่างมากของสหภาพยุโรป โดยใช้บทเรียนจากการระบาดของโควิด-19 และวิกฤตพลังงานของสหภาพยุโรปที่ต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลของรัสเซีย จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานพลังงานสะอาดของยุโรปได้ดียิ่งขึ้น

3 European Hydrogen Bank หรือ ธนาคารไฮโดรเจนแห่งยุโรป จัดตั้งขึ้นโดยคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป เพื่อสร้างความมั่นคงด้านการลงทุนและโอกาสทางธุรกิจสำหรับการผลิตไฮโดรเจนหมุนเวียนในยุโรปและทั่วโลก ไม่ใด้ออกแบบมาให้เป็นสถาบันทางกายภาพ แต่เป็นเครื่องมือทางการเงิน เพื่อเร่งการจัดตั้งห่วงโซ่มูลคำไฮโตรเจนเต็มรูปแบบในยุโรป วัตถุประสงค์หลักของโรงงานแห่งนี้คือการปลดล็อกการลงทุนภาคเอกชนในห่วงโซ่คุณค่าไฮโดรเจน ทั้งในสหภาพยุโรปและทั่วโลก โดยการเชื่อมโยงการจัดหาพลังงานหมุนเวียนเข้ากับความต้องการของสหภาพยุโรป และจัดการกับความท้าทายในการลงทุนช่วงเริ่มแรกธนาคารไฮโดรเจนแห่งยุโรปจะสร้งตลาดเริ่มแรกสำหรับไฮโดรเจนหมุนเรียน โดยนำเสนอโอกาสการเติบโตและการจ้างงานใหม่ ๆ / European Commission
 

บทความนี้จัดทำโดย แผนกนโยบายและแผน ศูนย์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (E&E Intelligence Unit: EIU) สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (EEI)

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH