นิสสันขาดทุน 221.9 พันล้านเยน ครึ่งปีแรก 2025 ยอดขายทั่วโลกลด 116,000 คัน

นิสสันขาดทุน 221.9 พันล้านเยนในครึ่งปีแรก 2025 ยอดขายทั่วโลกลดลงกว่า 116,000 คัน

อัปเดตล่าสุด 12 พ.ย. 2568

ผลประกอบการครึ่งปีแรกติดลบจากผลกระทบภาษีและอัตราแลกเปลี่ยน

6 พฤศจิกายน 2025 - นิสสัน มอเตอร์ ประกาศผลประกอบการรวมสำหรับช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2025 (เมษายน–กันยายน) โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน (Operating Income) ติดลบ 27.7 พันล้านเยน และ ขาดทุนสุทธิ 221.9 พันล้านเยน เทียบกับกำไรสุทธิ 19.2 พันล้านเยนในช่วงเดียวกันของปีก่อน

ปัจจัยลบสำคัญคือ ผลกระทบจากภาษีรถยนต์ในสหรัฐฯ ซึ่งทำให้บริษัทเสียหาย 149.7 พันล้านเยน และ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ อีก 64.5 พันล้านเยน โดยนิสสันคาดว่าตลอดทั้งปีงบประมาณ (สิ้นสุดมีนาคม 2026) ผลกระทบจากภาษีจะสูงถึง 275 พันล้านเยน ส่งผลให้คาดว่าจะ ขาดทุนจากการดำเนินงานรวม 275 พันล้านเยน จากที่เคยมีกำไร 69.8 พันล้านเยนในปีก่อนหน้า ทั้งนี้ บริษัทตัดสินใจ งดประกาศคาดการณ์ผลกำไรทั้งปี

Nissan วางแผนปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ หั่นต้นทุน พร้อมลุยสร้างการเติบโตใหม่

Advertisement

ยอดขายทั่วโลกลดลง โดยเฉพาะในจีนและญี่ปุ่น

ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกของนิสสันในช่วงเมษายน–กันยายน ลดลง 116,000 คัน จากปีก่อน เหลือ 1.48 ล้านคัน โดยเฉพาะตลาด จีนและญี่ปุ่น ที่มีแนวโน้มชะลอตัว ส่งผลให้รายได้รวมลดลง 6.7% อยู่ที่ 5.57 ล้านล้านเยน

ขายสำนักงานใหญ่โยโกฮามา เพื่อนำเงินลงทุนใน AI และดิจิทัล

นิสสันยังได้ประกาศขายสำนักงานใหญ่ทั่วโลกในเขตนิชิ เมืองโยโกฮามา ให้แก่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ MJI (ตั้งอยู่ในเขตจูโอ กรุงโตเกียว) มูลค่า 97 พันล้านเยน ภายใต้รูปแบบ ขายและเช่าคืน (sale-and-leaseback) ซึ่งจะทำให้บริษัทบันทึก กำไรพิเศษ (extraordinary profit) โดยจะเช่าพื้นที่ต่อเนื่องเป็นเวลา 20 ปี หลังการขายในเดือนธันวาคม

Ivan Espinosa ประธานและซีอีโอของนิสสันกล่าวว่า

“รายได้จากการขายทรัพย์สินนี้จะถูกนำไปใช้ลงทุนในระบบที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการพัฒนาด้านดิจิทัล เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถทางเทคโนโลยีขององค์กรในระยะยาว”

บทสรุป

ผลประกอบการที่ขาดทุนและยอดขายที่ชะลอตัวสะท้อนความท้าทายของนิสสันในยุคที่ตลาดโลกกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะในจีนและสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน บริษัทกำลังพยายามปรับโครงสร้างธุรกิจและลงทุนใน เทคโนโลยี AI เพื่อพลิกกลับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

บทความยอดนิยม 10 อันดับ