เรโนลต์-นิสสัน อินเดีย จ่ายชดเชยค่าจ้างพนักงาน

ศาลอินเดียเคาะ สั่ง เรโนลต์-นิสสัน จ่ายชดเชยค่าจ้างพนักงานรวม 9.53 ล้านเหรียญ

อัปเดตล่าสุด 23 ส.ค. 2564

อินเดีย ตลาดยานยนต์อันดับ 5 ของโลก มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ค่าแรงถูก จึงเป็นหนึ่งในฐานการผลิตสำคัญของหลายค่ายรถ ซึ่งรวมถึงโรงงานของคู่พันธมิตรเรโนลด์-นิสสันที่เพิ่งถูกศาลสั่งให้จ่ายชดเชยค่าจ้างให้พนักงานรวมมูลค่าราว 9.53 ล้านเหรียญ

Advertisement

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2021 ศาลอินเดียมีคำสั่งให้ เรโนลต์-นิสสัน (Renault-Nissan) จ่ายชดเชยค่าจ้างย้อนหลังให้กับพนักงาน 3,542 คน คิดเป็นมูลค่าราว 9.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ชั่วคราว

เรโนลต์-นิสสัน ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ในวันที่ 17 สิงหาคม 2021 ว่าอนุญาโตตุลาการอินเดียจะทำการสืบพยาน และรับฟังข้อเรียกร้องจากสหภาพแรงงานอีกกว่า 50 ข้อหลังจากนี้ ซึ่งหากศาลตัดสินตามข้อเรียกร้องของสหภาพฯ จะส่งผลให้ เรโนลต์-นิสสัน อาจต้องจ่ายค่าจ้างให้พนักงานเพิ่มขึ้นถึงคนละ 93%

ข้อตกลงเรื่องค่าแรงฉบับล่าสุดของทั้งสองฝ่าย ได้หมดอายุลงตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคม 2019 ซึ่งสหภาพแรงงานอินเดียได้ยื่นข้อเสนอขอขึ้นค่าแรงและสวัสดิการไปยังเรโนลต์-นิสสัน แต่ไม่เป็นผลสำเร็จทำให้มีข้อพิพาทระหว่างสองฝ่าย

พนักงาน เรโนลต์-นิสสัน ได้เรียกร้องให้บริษัทฯ จ่ายค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้น รวมถึงการปรับเพิ่มเบี้ยเลี้ยง ค่าประกัน และอัตราค่าแรงขั้นต่ำปีละ 500 รูปี หรือราว 6.7 ดอลลาร์สหรัฐ ไปจนถึงการจ้างพนักงานต่อกะเพิ่ม เนื่องจากพบว่าค่าจ้างของนิสสันต่ำกว่าฟอร์ดและฮุนไดราวครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยจากค่าครองชีพ โดยเฉพาะค่าอาหาร และค่าน้ำมันที่สูงขึ้น เป็นตัวกระตุ้นให้สหภาพแรงงานยื่นข้อเรียกร้องในครั้งนี้

คาดการณ์ว่า คำสั่งศาลในครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อ เรโนลต์-นิสสัน อย่างมาก เนื่องจากอินเดียเป็นตลาดยานยนต์อันดับ 5 ของโลก ซึ่งนิสสันได้เข้าลงทุนไปแล้วมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ก็ยังไม่อาจแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวัตถุดิบทั่วโลกมีราคาสูงขึ้น และรถของนิสสันไม่ได้รับการตอบรับในตลาดอินเดียดีเท่าที่คาดการณ์

เรโนลต์-นิสสัน แสดงความเห็นว่า ทางบริษัทไม่อาจตอบสนองความต้องการของสหภาพแรงงานได้ เนื่องจากบริษัทขาดทุนมหาศาล และหากมีคำสั่งให้จ่ายเงินชดเชยเพิ่มเติม บริษัทฯ อาจไม่สามารถดำเนินธุรกิจในอินเดียต่อได้ในะระยะยาว