กนอ. พัฒนา “นิคมบางปะกง” มูลค่า 6.2 พันล้าน สู่ Eco Industrial Estate รับการลงทุน EEC

กนอ. ผนึกเอกชน ทุ่ม 6.2 พันล้าน พัฒนานิคมบางปะกงสู่ Eco Industrial Estate รองรับ EEC

อัปเดตล่าสุด 5 ส.ค. 2568

การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) จับมือบริษัท บางปะกง อินดัสเทรียล เอสเตท จำกัด เดินหน้าพัฒนานิคมอุตสาหกรรมบางปะกง สู่โมเดลนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ รองรับอุตสาหกรรมอนาคตและการลงทุนในพื้นที่ EEC เสริมสร้างศักยภาพเศรษฐกิจไทย เติบโตยั่งยืน

กรุงเทพฯ 8 สิงหาคม 2568 – นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า ความร่วมมือกับบริษัท บางปะกง อินดัสเทรียล เอสเตท จำกัด ถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนนิคมอุตสาหกรรมแห่งที่ 79 ของ กนอ. โดยจะพัฒนาบนพื้นที่ประมาณ 962-1-78.5 ไร่ ด้วยงบลงทุนโครงสร้างพื้นฐานกว่า 6,200 ล้านบาท เพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น ยานยนต์และชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ โลหะและวัสดุ และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง ตอบโจทย์นโยบายรัฐบาลขับเคลื่อน EEC และการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมไทย

“โครงการนี้พัฒนาในรูปแบบ “นิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ” หรือ Eco-Industrial Estate ที่เน้นการบริหารจัดการพลังงาน-สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และความสมดุลกับชุมชนโดยรอบ สร้างอาชีพให้ประชาชนในพื้นที่กว่า 2,100 อัตรา และคาดหวังจะดึงเม็ดเงินลงทุนกว่า 25,000 ล้านบาท เพิ่มศักยภาพภาคอุตสาหกรรมและยกระดับ GDP ตามเป้าหมายของกระทรวงอุตสาหกรรม”นายสุเมธ กล่าว

ด้านนายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท บางปะกง อินดัสเทรียล เอสเตท จำกัด กล่าวว่า ในนามของบริษัทฯ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจาก กนอ.ในการร่วมพัฒนา “นิคมอุตสาหกรรมบางปะกง” ซึ่งถือเป็นโครงการสำคัญที่จะยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวสู่ความทันสมัยและมาตรฐานสากล โดยบริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาโครงการนี้ให้เป็นนิคมอุตสาหกรรมต้นแบบ ทั้งด้านการออกแบบระบบสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวก และการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล ภายใต้แนวคิด Eco-Industrial Estate เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมเติบโตควบคู่กับชุมชนอย่างยั่งยืน บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า เทคโนโลยีที่ทันสมัย และมาตรการด้านความปลอดภัยสูงสุดต่อผู้ประกอบการและชุมชนรอบข้าง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังวางเป้าหมายให้ “นิคมอุตสาหกรรมบางปะกง” เป็นพื้นที่รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคต ตอบโจทย์การลงทุนของผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศ พร้อมทั้งสร้างโอกาสอาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนและสร้างเศรษฐกิจไทยให้เติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคงและยั่งยืน

“ผมขอขอบคุณทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมผลักดันและสนับสนุนโครงการครั้งนี้ บริษัทฯ มีความพร้อมและยินดีอย่างยิ่งที่ จะเดินหน้าโครงการ ‘นิคมอุตสาหกรรมบางปะกง’ ให้สำเร็จลุล่วง และเป็นต้นแบบของนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ที่ตอบรับ ยุคใหม่ของอุตสาหกรรมไทย” นายวรสิทธิ์ กล่าว

โครงการนิคมอุตสาหกรรมบางปะกง ตั้งอยู่ในตำบลคลองตำหรุ อำเภอเมืองชลบุรี ถือเป็นนิคมอุตสาหกรรมลำดับที่ 79 ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ดำเนินงานโดยบริษัท บางปะกง อินดัสเทรียล เอสเตท จำกัด โดยมีมูลค่าการลงทุนกว่า 6,251 ล้านบาท เมื่อเปิดดำเนินการเต็มรูปแบบจะสร้างมูลค่าการลงทุนรวมของโรงงานกว่า 25,000 ล้านบาท พร้อมกับสร้างงานเพิ่มประมาณ 2,181 ตำแหน่ง ทั้งในระดับนิคมและโรงงาน โครงการครอบคลุมพื้นที่เกือบ 1,000 ไร่ โดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่อุตสาหกรรม รองรับด้วยระบบสาธารณูปโภคครบวงจร อาทิ ถนนสายหลักกว้าง 25 เมตร ระบบระบายน้ำฝนที่สามารถรับมือกรณีน้ำท่วม รวมถึงระบบประปาและบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพ พร้อมด้วยโครงข่ายไฟฟ้ากำลังสูงและโทรคมนาคมความเร็วสูง เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของโรงงานภายในนิคม

นอกจากนี้ ยังมีระบบดับเพลิงที่มีน้ำสำรองเพียงพอทุกจุดเสี่ยง พร้อมระบบจัดการขยะมูลฝอยและกากของเสียจากอุตสาหกรรมอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน นิคมอุตสาหกรรมบางปะกงจึงมั่นใจได้ว่าเป็นโครงการที่พร้อมรองรับการลงทุนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ชลบุรีได้อย่างยั่งยืนและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม