ฟอร์ด มอเตอร์ ชะลอการผลิตรถ SUV และรถกระบะไฟฟ้าทั้งหมด

ฟอร์ด มอเตอร์ ชะลอการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด

อัปเดตล่าสุด 16 เม.ย. 2567
  • Share :
  • 558 Reads   

ฟอร์ด มอเตอร์ เลื่อนแผนการผลิตรถ SUV และรถกระบะไฟฟ้าทั้งหมด เพื่อมุ่งเน้นไปที่การผลิตรถยนต์ไฮบริดเป็นตัวเลือกทั้งไลน์อัพในตลาดอเมริกาเหนือภายในปี 2573 เผยการผลิตรถอีวียังมีต้นทุนที่สูง การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคอีวีล่าช้ากว่าที่คาดไว้ นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดของฟอร์ด และยังสะท้อนว่าอุตสาหกรรมยานยนต์อยู่ในสถานการณ์ที่กำลังทบทวนแผนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม ฟอร์ดย้ำยังลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า

 

Advertisement

สหรัฐอเมริกา 4 เม.ย. 67 สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ฟอร์ด มอเตอร์ (Ford Motor) ประกาศชะลอการผลิตรถเอสยูวีและรถกระบะไฟฟ้าทั้งหมด เนื่องจากบริษัทเปลี่ยนกลยุทธ์ไปสู่การนำเสนอรถยนต์ไฮบริดเป็นทางเลือกในทุกรุ่นภายในตลาดอเมริกาเหนือทั้งหมดภายในปี 2573

อย่างไรก็ตาม บริษัทจะยังคงลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้า (EV) แต่จะเลื่อนการผลิตรถ SUV ที่โรงงานในแคนาดาออกไปเป็นปี 2570 จากแผนเดิมที่วางไว้ในปี 2568 ส่วนรถกระบะรุ่นถัดไปที่มีรหัสโครงการ "T3" จะถูกเลื่อนจากช่วงปลายปี 2568 ไปเป็นปี 2569

ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงแผนรถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดสำหรับฟอร์ดและอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งหมด เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคอีวีได้ล่าช้ากว่าที่คาดไว้ และต้นทุนการผลิตยังคงสูง

เมื่อปีที่แล้วฟอร์ดกล่าวว่าจะชะลอหรือยกเลิกการใช้จ่ายตามแผนมูลค่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการลงทุนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ เนื่องจากสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง ตลอดจนความท้าทายในการสร้างและขายรถยนต์ให้มีกำไร

ยอดขาย EV ตามหลัง เทสลา

ฟอร์ดมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในไตรมาสแรกของปีนี้ติดอันดับสองรองจากเทสลา แต่หากนับรวมผู้ผลิตรถยนต์จากดีทรอยต์ทั้งหมด อยู่อันดับที่สาม ทั้ง Tesla และ Hyundai รวมถึง Kia และ Genesis มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าสูงกว่าฟอร์ด

“ในฐานะแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 2 ในสหรัฐอเมริกาในช่วงสองปีที่ผ่านมา เรามุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าที่ทำกำไรได้ โดยใช้เงินทุนอย่างชาญฉลาด และนำรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน ไฮบริด และไฟฟ้าเต็มรูปแบบออกสู่ตลาดในเวลาที่เหมาะสม” Jim Farley ซีอีโอฟอร์ดกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีในแถลงการณ์

รถ SUV 3 แถวเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อปรับเปลี่ยนโรงงานประกอบรถฟอร์ดโอกวิลล์ในมลรัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา ให้กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งใหม่ นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ฟอร์ดจะปรับเปลี่ยนโรงงานในอเมริกาเหนือที่ผลิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมันไปเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์

นอกจากนี้ ฟอร์ด มอเตอร์ ยังระบุว่า ช่วงเวลาเพิ่มเติมนี้จะช่วยให้ตลาดผู้บริโภคสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบสามแถวได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และช่วยให้ฟอร์ดสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีแบตเตอรี่รุ่นใหม่ ที่มีเป้าหมายเพื่อมอบความทนทานที่เพิ่มขึ้นและคุ้มค่ามากขึ้นแก่ลูกค้า 

รวมถึงบริษัทจะมุ่งเน้นการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าในโรงงานแห่งใหม่ เช่น ศูนย์กลางการผลิต “BlueOval City” ที่รัฐเทนเนสซี มากกว่าการปรับเปลี่ยนโรงงานเดิมที่ผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายใน ให้กลายเป็นโรงงานผลิตเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า

“รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ล้ำสมัยของเรา จะถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เน้นการทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์อย่างเต็มรูปแบบ มอบประสบการณ์ดิจิทัลที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น และมีศักยภาพในการให้บริการที่หลากหลาย” Jim Farley กล่าว

ฟอร์ด มอเตอร์ ยังระบุอีกว่า โรงงานขนาดใหญ่ในรัฐเทนเนสซี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนมูลค่า 1.14 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐที่ประกาศในปี 2564 จะเริ่มผลิตรถกระบะไฟฟ้ารุ่นใหม่ของฟอร์ดในปี 2569 ช้ากว่ากำหนดเดิมที่ตั้งไว้ในปี 2568 ขณะเดียวกันยังคงเดินหน้าก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในรัฐมิชิแกน รัฐเทนเนสซี และรัฐเคนทักกี้

คาดปี 2567  "Model e"ขาดทุน 5 - 5.5 พันล้านดอลลาร์

ในไตรมาสแรกของปี 2567 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของฟอร์ดเพิ่มขึ้น 86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งค่อนข้างซบเซา โดยยอดขายรถยนต์ไฮบริดของฟอร์ดเพิ่มขึ้น 42% ขณที่ยอดขายรถยนต์ฟอร์ดเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบเดิมเพิ่มขึ้นเพียง 2.6%

และประสบภาวะขาดทุนในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า "Model e" 4.7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2566 รวมถึงขาดทุน 1.57 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสสี่ และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยังได้คาดการณ์ว่า หน่วยงานดังกล่าวจะขาดทุนราว 5 - 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567

#Ford #ElectricVehicles #Automotive #Investment #Mreport #ข่าวอุตสาหกรรม
 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH