ภาษีโลหะของสหรัฐฯ เขย่าตลาดบรรจุภัณฑ์ อาหารกระป๋องอาจต้องเปลี่ยนรูปแบบ

ผลสะเทือนจากภาษีโลหะ ผู้ผลิตอาหารกระป๋องสหรัฐฯ เจอแรงกดดัน แพ็กเกจจิ้งอาจเปลี่ยนจากกระป๋องเป็นกล่อง

อัปเดตล่าสุด 24 มิ.ย. 2568
  • Share :

นโยบายขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ในสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งใช้บรรจุภัณฑ์จากโลหะเป็นหลัก

Advertisement

24  มิถุนายน 2568 - รอยเตอร์เผย แอนดี้ รัสซิก รองประธานฝ่ายขายและการตลาดของ Pacific Coast Producers ผู้ผลิตอาหารกระป๋องรายใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า บริษัทของเขากำลังได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นเป็น 50% เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ต้นทุนเหล็กชนิดบางพิเศษที่ใช้ทำกระป๋องอาหารเพิ่มขึ้นประมาณ 6% และอาจเพิ่มขึ้นถึง 24% ภายในฤดูใบไม้ผลิหน้า ส่งผลให้ต้นทุนของบริษัทพุ่งสูงถึง 40 ล้านดอลลาร์ในปีหน้า

แม้ผู้ประกอบการหลายรายจะพิจารณาหันไปใช้บรรจุภัณฑ์ทางเลือก เช่น กล่องกระดาษปลอดอะลูมิเนียมจาก Tetra Pak หรือ SIG Group รวมถึงขวดแก้วและถุงฟอยล์ แต่ก็เผชิญกับอุปสรรคด้านต้นทุนและโลจิสติกส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขวดแก้วที่มีน้ำหนักมากและขนส่งได้ยากกว่า

ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตรายอื่นที่มีความหลากหลายด้านบรรจุภัณฑ์ เช่น Coca-Cola และ PepsiCo อาจปรับตัวได้ง่ายกว่า เนื่องจากใช้ขวดพลาสติกเป็นหลักอยู่แล้ว โดยโคคาโคลาระบุว่า บรรจุภัณฑ์ของบริษัทในปี 2023 เป็นพลาสติกเกือบ 50% เทียบกับ 26% สำหรับโลหะ

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ยังเร็วเกินไปที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ เพราะบริษัทต่างๆ ยังกังวลว่าการตัดสินใจในระยะยาวอาจได้รับผลกระทบจากนโยบายที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอในเวทีการค้าโลก

 

#ทรัมป์ #ภาษีทรัมป์ #ภาษีโลหะ #สงครามการค้า #ตลาดบรรจุภัณฑ์ #MReportTH #IndustryNews

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / X / YouTube @MreportTH