โซนี่ ฮอนด้า ร่วมลงทุน รถยนต์ไฟฟ้า

SONY จับมือ HONDA จับตาพันธมิตรคู่ใหม่ ในสนามรถอีวี

อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 2565
  • Share :
  • 3,703 Reads   

“โซนี่” จับมือ “ฮอนด้า” ร่วมทุนธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า กำลังเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นอย่างมาก พันธมิตรคู่นี้มีที่มาที่ไปอย่างไร มาร่วมเปิดใจผู้บริหารของสองบริษัท

Advertisement

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2022 โซนี่ กรุ๊ป (Sony Group) และ ฮอนด้า มอเตอร์ (Honda Motor) ได้จัดงานแถลงข่าวการประกาศความร่วมมือในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ด้านโมบิลิตี้ (Mobility) ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างยุคใหม่ของธุรกิจและบริการด้านโมบิลิตี้ผ่านบริษัทร่วมทุนที่จะมีการจัดตั้งร่วมกัน

ที่แล้วมา แม้โซนี่จะมีการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า VISION-S อย่างต่อเนื่อง เน้นชูโรงฟังก์ชันด้านความบันเทิงเป็นหลัก แต่ก็ยังไม่มีค่ายรถใดมาเป็นพันธมิตร เมื่อโซนี่สามารถบรรลุข้อตกลงกับค่ายรถใหญ่อย่างฮอนด้าได้ จึงเป็นที่จับตามองถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น

รถยนต์ไฟฟ้า VISION-S จะเดินต่อได้ SONY ต้องหาค่ายรถมาเป็นพันธมิตร

นาย Kenichiro Yoshida ประธาน Sony Group แสดงความเห็นว่า ในอีก 10 ปีนับจากนี้ไป ความก้าวหน้าด้านโมบิลิตี้ (Mobility) จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ซึ่งจุดยืนของโซนี่ที่โฟกัสไปยังธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงอุปกรณ์ไอทีในยานยนต์ อุปกรณ์รับส่งสัญญาณ และอุปกรณ์เครือข่ายเน็ตเวิร์คแล้ว โซนี่ยังเล็งเห็นว่า บริษัทสามารถสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจโมบิลิตี้ (Mobility) เพื่อให้เป็นมากกว่าแค่เพียงการขายยานยนต์ และตั้งใจใช้จุดแข็งของโซนี่อย่างบริการด้านความบันเทิงต่าง ๆ เป็นตัวชูโรงในครั้งนี้

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้จะมีการจัดตั้งบริษัทภายในปี 2022 นี้ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง รวมถึงการให้บริการด้านโมบิลิตี้ โดยบริษัทที่จัดตั้งใหม่นี้จะรับผิดชอบตั้งแต่การวางแผน ออกแบบ พัฒนา ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร โดยใช้โรงงานของฮอนด้าเป็นฐานการผลิต และกำหนดส่งรถอีวีรุ่นแรกสู่ตลาดภายในปี 2025

รถยนต์ไฟฟ้า SUV “VISION-S 02” รุ่นต้นแบบจากโซนี่

ในฝั่งของโซนี่จะรับผิดชอบการพัฒนาอุปกรณ์เซนเซอร์ ระบบวิชัน อุปกรณ์รับส่งสัญญาณ ไปจนถึงชิ้นส่วนอื่น ๆ และแพลตฟอร์มด้านบริการต่าง ๆ ซึ่งจะมุ่งพัฒนาบริการด้านโมบิลิตี้ (Mobility) ให้เป็นจุดขายของบริษัท

นาย Kenichiro Yoshida ยอมรับว่าโซนี่ยังเป็นหน้าใหม่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ จึงคิดมาตลอดว่าบริษัทจำเป็นต้องร่วมมือกับค่ายรถจึงจะสามารถเดินหน้าธุรกิจยานยนต์ต่อได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับโซนี่ซึ่งไม่มีโรงงานผลิตยานยนต์เป็นของตัวเอง ซึ่งความรวมมือในครั้งนี้จะช่วยให้โซนี่เข้าถึงปัจจัยเหล่านี้ ไปจนถึงองค์ความรู้ในการพัฒนายานยนต์ที่โซนี่ไม่เคยมีมาก่อน จึงกล่าวได้ว่าความร่วมมือกับฮอนด้าเป็นสิ่งที่ทำให้ความต้องการเข้าสู่ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าของโซนี่กลายเป็นรูปธรรมได้

ฮอนด้าเล็งเห็นความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมอีวี

นาย Toshihiro Mibe ประธานบริษัทฮอนด้า แสดงความเห็นว่า “ปัจจุบันผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ไม่จำเป็นต้องเป็นค่ายรถอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นผู้เล่นรายใหม่ที่เข้ามาท้าทาย สร้างนวัตกรรม และความเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ในอุตสาหกรรมนี้” และเปิดเผยว่าสาเหตุที่ตกลงร่วมมือกับโซนี่ในครั้งนี้ เนื่องจากเล็งเห็นความเป็นไปได้ของธุรกิจโมบิลิตี้ (Mobility) ในอนาคต

นาย Masaru Ibuka ผู้ก่อตั้งโซนี่ (ซ้าย) และนาย Akio Morita นักธุรกิจชาวญี่ปุ่น

นับตั้งแต่ในยุคสมัยของนาย Masaru Ibuka ผู้ก่อตั้งโซนี่ และนาย Soichiro Honda ผู้ก่อตั้งบริษัทฮอนด้า ทั้งสองบริษัทได้มีความร่วมมือกันมาแล้วหลายด้าน ทั้งการให้ความช่วยเหลือกันและกัน และการแบ่งปันการเรียนรู้อยู่เป็นประจำ ทำให้ทั้งสองบริษัทมีจุดร่วมกันหลายจุด ความร่วมมือในครั้งนี้จึงเหมือนกับเป็นการย้อนไปสู่ต้นกำเนิดของบริษัท อีกทั้งเป็นความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในระดับโลกอีกด้วย

นาย Soichiro Honda ผู้ก่อตั้งบริษัทฮอนด้า (25 กรกฎาคม 1972)

โดยในช่วงไม่กี่ปีมานี้ โซนี่มุ่งมั่นไปกับการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า VISION-S เพื่อเข้าสู่ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าในนาม Sony Mobility Inc. และใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เป็นจุดแข็งของบริษัท จนในที่สุดโซนี่สามารถพา VISION-S ไปวิ่งบนสนามทดสอบ และอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมในขั้นตอนถัดไป 

VISION-S ได้รับการประเมินค่าจากอุตสาหกรรมยานยนต์ว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีจุดแข็งด้านระบบเซนเซอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซนเซอร์ภาพ CMOS

โซนี่และฮอนด้าเปิดเผยว่า เป้าหมายของความร่วมมือในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการขายยานยนต์ แต่เป็น “การนำเสนอบริการที่มีมูลค่า” และตั้งใจพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าให้เป็น “พื้นที่ที่ผู้ใช้ยานยนต์สามารถใช้บริการต่าง ๆ ได้” ซึ่งกุญแจสำคัญก็คือ ระบบต่าง ๆ ในยานยนต์จะเชื่อมต่อเข้ากับบริการอะไรได้บ้าง และจะมีบริการใดที่สามารถดึงดูดใจผู้ใช้งานได้บ้าง

แนวโน้มตลาด EV และจำนวนชิ้นส่วน คือปัจจัยดึงดูดผู้เล่นรายใหม่

นาย Toshihiro Mibe กล่าวว่า ความร่วมมือกับโซนี่ในครั้งนี้เป็นคนละส่วนกับไทม์ไลน์รถยนต์ไฟฟ้าของฮอนด้าที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ และมีความเป็นไปได้ที่ฮอนด้าจะนำเทคโนโลยีและเซอร์วิสที่ได้จากความร่วมมือในครั้งนี้มาใช้กับรถยนต์ของฮอนด้าเช่นเดียวกัน เนื่องจากเล็งเห็นว่าปัจจุบัน อุตสาหกรรมยานยนต์ให้ความสำคัญกับแนวคิด Software-Defined Vehicle (SDV) ซึ่งครอบคลุมทั้งแนวคิด Connected Car และโซลูชันด้านความบันเทิงมากยิ่งขึ้น ซึ่งโซนี่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้เป็นอย่างมาก

รถยนต์ไฟฟ้า “Honda e”

โดยในปีที่แล้ว ฮอนด้าประกาศตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฮบริด และรถยนต์เซลล์พลังงานเชื้อเพลิงไว้ที่ 100% ในปี 2040 อย่างไรก็ตาม ซัพพลายเออร์ค่อนข้างเสียงแตกต่อประกาศครั้งนี้ โดยมีทั้งผู้ชิตชิ้นส่วนที่เห็นด้วย ผู้ผลิตชิ้นส่วนที่กล่าวว่ายังไม่เห็นแผนที่เป็นรูปธรรม และผู้ผลิตชิ้นส่วนที่ไม่มั่นใจว่าผู้ผลิตชิ้นส่วนจะได้ประโยชน์จากการตัดสินใจครั้งนี้หรือไม่

เมื่อปีที่แล้วฮอนด้าประกาศตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฮบริด และรถยนต์เซลล์พลังงานเชื้อเพลิงไว้ที่ 100% ในปี 2040 อย่างไรก็ตาม ซัพพลายเออร์ค่อนข้างเสียงแตกต่อประกาศครั้งนี้ โดยมีทั้งผู้ผลิตชิ้นส่วนที่เห็นด้วย ผู้ผลิตชิ้นส่วนที่กล่าวว่ายังไม่เห็นแผนที่เป็นรูปธรรม และผู้ผลิตชิ้นส่วนที่ไม่มั่นใจว่าจะได้ประโยชน์จากการตัดสินใจครั้งนี้หรือไม่

นาย Toshihiro Mibe แสดงความเห็นต่อกรณีนี้ว่า ความร่วมมือกับโซนี่ในครั้งนี้คือส่วนหนึ่งของความพยายามด้านรถยนต์ไฟฟ้า โดยจะมีการเปิดเผยในรายละเอียดและประกาศแผนธุรกิจที่ปรับปรุงใหม่อีกครั้ง

ความเคลื่อนไหวของโซนี่และฮอนด้าในครั้งนี้ เป็นสิ่งที่ย้ำให้เห็นว่า ผู้เล่นจากอุตสาหกรรมอื่น ๆ สามารถเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ได้จริง และยังมีบริษัทอื่นอีกมากที่มีแนวโน้มเช่นเดียวกันนี้ ไม่ว่าจะเป็น Foxconn ซึ่งนอกจากอีวีแล้วยังมีแผนเข้าสู่ตลาดรถบัสไฟฟ้า, Intel, และ Baidu ซึ่งมีแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า, และอื่น ๆ 

ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์แสดงความเห็นว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าที่มีชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นแต่มีชิ้นส่วนเครื่องยนต์น้อยลงนี้เอง ทำให้บริษัทด้านไอทีสามารถเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้ได้ง่ายกว่าที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีจุดแข็งด้านชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เป็นตัวช่วยสร้างความได้เปรียบอีกด้วย ซึ่งเมื่อผนวกกับแนวโน้มตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตทำให้เกิดผู้เล่นใหม่ในอุตสาหกรรมขึ้นมาหลายต่อหลายราย

ปัจจุบันมีผู้เล่นรายใหม่ที่มีแผนเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ดังนี้

  • Apple มีรายงานจากหลายแหล่งว่าแอปเปิลจะเริ่มขายรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2025
  • Foxconn อยู่ระหว่างประสานความร่วมมือกับหลายบริษัทเพื่อผลิตยานยนต์ และมีแผนเข้าสู่ตลาดรถบัสไฟฟ้า
  • Intel ตั้งเป้าเริ่มให้บริการรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2025
  • Baidu มีกำหนดเริ่มเดินสายผลิตอีวีในปี 2023
  • DiDi ร่วมมือกับค่ายรถเพื่อเข้าตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
  • Xiaomi มีกำหนดเริ่มเดินสายผลิตอีวีในปี 2024
  • Alibaba ร่วมกับ SAIC Motor ก่อตั้งแบรนด์อีวี “IM Motors”

 

#Sony #Honda #โซนี่ #ฮอนด้า #รถยนต์ไฟฟ้า #EV #Automotive #อุตสาหกรรมยานยนต์  #M Report #mreportth #วงในอุตสาหกรรม #ข่าวอุตสาหกรรม

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH